กลายเป็นเรื่องตลกร้ายเมื่ออนุสาวรีย์แห่งความสามัคคีที่ถูกสร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ความสามัคคีและความอุดมสมบูรณ์ของประเทศอินเดีย กลับสร้างความแตกแยกในสังคมอินเดียอย่างเห็นได้ชัดเจน เนื่องจากการก่อสร้างอนุสาวรีย์ใช้งบประมาณสูงถึง 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท ทำให้เกิดคำถามว่า อนุสาวรีย์ที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้ คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่
อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ "ซาร์ดาร์ วัลลัภไพ ปาเตล" แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษและรัฐมนตรีมหาดไทยคนแรกของอินเดีย ซาร์ดาร์ วัลลัภไพ ปาเตล มีบทบาทสำคัญในการรวบรวมรัฐพื้นเมืองกว่า 500 รัฐให้กลายเป็นสหภาพอินเดีย หลังได้รับเอกราชจากอังกฤษ จนได้รับฉายาว่า "บุรุษเหล็กแห่งอินเดีย"
อนุสาวรีย์แห่งนี้มีความสูงถึง 182 เมตร ถือเป็นอนุสาวรีย์ที่สูงที่สุดในโลก สูงกว่าเทพีเสรีภาพบนเกาะลิเบอร์ตี้ ในนครนิวยอร์ก 2 เท่า และเป้าหมายของการสร้างอนุสาวรีย์แห่งนี้คือการสร้างเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและความพยายามในการผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวประมาณ 2.5 ล้านคนต่อปี
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เดินทางไปร่วมพิธีเปิดอนุสาวรีย์แห่งความสามัคคี ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากการก่อสร้างตามแนวคิดของเขาเสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเป็นร่างจนได้ชื่อว่าเป็นความภาคภูมิใจของประเทศ
แต่ดูเหมือนว่าเกษตรกรและกลุ่มชนเผ่าในรัฐคุชราตไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับการก่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งนี้ สะท้อนให้เห็นจากการประท้วงต่อต้านอย่างหนักจนนำไปสู่การจับกุมกลุ่มนักเคลื่อนไหว 12 คน ก่อนหน้าพิธีเปิดอนุสาวรีย์
หนึ่งในสาเหตุที่เกษตรกรและกลุ่มชนเผ่าเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นรัฐคุชราตต้องเวนคืนที่ดินจากชาวบ้าน 185 ครอบครัว สำหรับการก่อสร้างและเงินชดเชยที่ให้กับชาวบ้านก็ยังไม่เพียงพอเลี้ยงปากท้อง ยิ่งไปกว่านั้นชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงกังวลว่าโครงการก่อสร้างอนุสาวรีย์ ทะเลสาบและพิพิธภัณฑ์ ครอบคลุมพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในบริเวณโดยรอบ
ส่วนเกษตรกรได้ตั้งคำถามว่ารัฐบาลอินเดียควรเอางบประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มาพัฒนาระบบชลประทานและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านที่มักประสบภัยแล้งและต้องพึ่งพาฝนจากฤดูมรสุมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ จึงเป็นปัญหาที่ชุมชนท้องถิ่นในรัฐคุชราตต้องเตรียมความพร้อมรับมือต่อไป
ทว่าความไม่พอใจไม่ได้จำกัดอยู่ในกลุ่มเกษตรกรและชนเผ่าในพื้นที่ใกล้เคียงอนุสาวรีย์เท่านั้น พรรคคองเกรสแห่งชาติอินเดียก็ค่อนแคะผู้นำอินเดียว่าใช้รูปปั้นของรัฐบุรุษมาหากินเรียกคะแนนนิยมทางการเมือง ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ทำให้อนุสาวรีย์แห่งเอกภาพอาจไม่ได้สร้างเอกภาพอย่างแท้จริง