"อัจฉริยะ" บุก สธ.ร้องเอาผิดรพ.ปฏิเสธรักษาคนไข้ถูกสาดน้ำกรด

อาชญากรรม
12 พ.ย. 61
11:48
1,713
Logo Thai PBS
"อัจฉริยะ" บุก สธ.ร้องเอาผิดรพ.ปฏิเสธรักษาคนไข้ถูกสาดน้ำกรด
"อัจฉริยะ" พาครอบครัวสาวถูกสาดน้ำกรดเสียชีวิต เข้าร้องขอความเป็นธรรมที่กระทรวงสาธารณสุข กรณีโรงพยาบาลเอกชนปฏิเสธการรักษา โดยนักกฎหมาย ชี้ถูกสาดน้ำกรด เข้าข่ายฉุกเฉิน ที่ทุกโรงพยาบาลต้องรักษาเบื้องต้น แม้ไม่มีบัตรประกันสังคม

วันนี้ (12 พ.ย.2561) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำครอบครัวและศพของ น.ส.ช่อลัดดา หญิงที่ถูกสามีสาดน้ำกรดใส่ แต่อ้างว่าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ปฏิเสธการรักษา จนทำให้น.ส.ช่อลัดดา เสียชีวิตในรถแท็กซี่ในระหว่างทางไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น เตรียมไปร้องขอความเป็นธรรมต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุข เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มายื่นเรื่องกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งแพทยสภา เพื่อขอให้ดำเนินคดีโรงพยาบาลเอกชน รวมทั้งแพทย์ พยาบาล เนื่องจากไม่รับรักษาผู้ป่วยถูกสาดน้ำกรด  ซึ่งตามระเบียบรัฐบาลกระทรวง คนไข้เมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส มีสิทธิรักษา 72 ชั่วโมง แต่จะมาอ้างว่าคนไข้จะไปรักษาตามโรงพยาบาลประกันสังคมไมได้ และไม่ใช่ดูจากบัตร

สาระสำคัญคือตอนที่น.ส.ช่อลัดดา เข้ารักษาในโรงพยาบาล ขณะเกิดเหตุมีแพทย์หรือไม่ และที่ทางผู้บริหารโรงพยาบาลแถลง เขาได้รับรายงาน แต่ไม่รู้เลยว่าโรงพยาบาล มีหมอหรือไม่

จากการส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศิริราช พบว่า น.ส.ช่อลัดดา โดนน้ำกรดสาด และกรอกปากทำให้เสียชีวิต และพยาบาลเองไม่สามารถวินิจฉัยแทนหมอได้  และโรงพยาบาลยังวินิจฉัยไม่ได้ระหว่างน้ำร้อนกับน้ำกรด ก็จบแล้ว

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังมีรายงานเข้ามาด้วยว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ มีการรักษาพยาบาลที่ไม่ได้ มาตรฐาน และจะเห็นว่าโรงพยาบาลแห่งนี้อาจจะไม่มีมาตรฐานในการรักษาคนต่อไป ทางชมรมฯช่วยฟ้องค่าเสียหายเรียก 10 ล้านบาทให้กับครอบครัวนี้ 

 

แบบไหนเข้าข่ายฉุกเฉินรักษาได้ทุกรพ.

นายพีรภัทร ฝอยทอง ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย แนะนำหากว่าวันหนึ่ง เมื่อเราเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินและถูกปฏิเสธการรักษาจะดำเนินการเอาผิดกับโรงพยาบาลได้หรือไม่ โดยระบุว่า ถ้าเป็นกรณีผู้ป่วยฉุกเฉิน ตามกฎหมายโรงพยาบาลทุกแห่ง สถานพยาบาลทั้งของรัฐ และเอกชน ต้องรับรักษาจะปฏิเสธไม่รับรักษาไม่ได้

ตามคำนิยมคำว่าเข้าข่ายฉุกเฉิน ต้องเป็นไปตามนิยามของกฎหมายด้วย ซึ่งการวินิจฉัยง่ายๆ เช่นสัญญาชีพไม่คงที่ ความดันตก แต่หากไม่ได้ไม่ป่วยฉุกเฉิน สิ่งที่ตามมาทางโรงพยาบาลจะถามว่าจะรักษาที่นี่หรือไม่ หรือไปรักัษาตามสิทธิ


นายพีรภัทร กล่าวว่า ในกรณีนี้ตามข่าวทางโรงพยาบาลได้เสนอให้รักษาที่โรงพยาบาล หรือจะไปรักษาตามสิทธิของคนป่วย แต่ทางผู้ป่วยปฏิเสธ เพราะไม่อยากชำระเงินในส่วนที่ตัวเองต้องนอนรักษา จึงถือเป็นการตัดสินใจของผู้ป่วย และญาติผู้ป่วยเอง 

โดยกรณีนี้เข้าข่ายนิยามได้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินอยู่แล้ว แต่ต้องดูต่อว่าผู้ป่วยจะใช้สิทธิที่จะรักษา หรืออยากจะปฏิเสธ

เรามีสิทธิฟ้องร้องได้ ถ้ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และเชื่อว่าเคสแบบนี้ทุกโรงพยาบาลอยากจะรักษาอยู่แล้ว เพียงแต่เขาจะต้องแจ้งสิทธิว่าค่าใช้จ่ายตรงนี้ใครจะรับผิดชอบ ตัวคนไข้เอง หรือตามบัตรที่คนไข้ถืออยู่ 

จับสามีมือสาดน้ำกรดภรรยาเสียชีวิต


ขณะที่ตำรวจนครบาลท่าข้ามท่าข้าม คุมตัว นายคำตัน สิงหนาท อายุ 50 ปี ที่ก่อเหตุสาดน้ำกรดใส่น.ส.ช่อลัดดา หลังหลบหนีไปอยู่ที่จ.นครสวรรค์ เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เนื่องจากความหึงหวง แต่ต้องการเพียงให้เสียโฉมเท่านั้น ไม่มีเจตนาให้เสียชีวิต และในช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่จะคุมตัวนายคำตันไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป

 


สำหรับคดีนี้เกิดจากกรณีน.ส.ช่อลัดดา ถูกผู้ต้องหา สาดหน้ากรดใส่หน้า จากนั้น ลูกสาวของน.ส.ช่อลัดดา ได้พาไปที่โรงพยาบาล พระราม 2 ซึ่งจากคำบอกเล่า เด็กหญิงวัย 12 ปีบอกว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพระราม 2 แจ้งให้พาแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษา และขณะพาแม่ขึ้นโดยสารแท็กซี่เพื่อเดินทางไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษานั้น แม่ก็ได้เสียชีวิตลง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง