"เบตง" เปิดดูแลผู้สูงวัย สร้างคุณค่าบั้นปลายชีวิต

สังคม
15 พ.ย. 61
18:53
2,438
Logo Thai PBS
"เบตง" เปิดดูแลผู้สูงวัย สร้างคุณค่าบั้นปลายชีวิต

ด้วยความตั้งใจให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา ได้พบปะพูดคุย และทำกิจกรรมคลายความเหงา เมื่อลูกหลานต้องออกไปทำงาน นายพูลไท ละวากร วัย 60 ปี ร่วมกับเพื่อน จึงเปิดบ้านเป็นสถานที่ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว โดยมีบริการอาหาร น้ำชา กาแฟ ฟรีไวไฟ และรับชาร์จแบตมือถือ คิดค่าบริการชั่วโมงละ 60 บาท และวันละ 300 บาท รับฝากตั้งแต่เวลา 08.00 น.-15.00 น.

พูลไท ให้สัมภาษณ์ให้ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า เบตงเป็นตำบลเล็กๆ บางครั้งลูกหลานของผู้สูงอายุต้องออกไปทำงาน เช่น กรีดยาง หรือทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่มีเวลาดูแลผู้สูงอายุ เมื่อ 6 ปีที่แล้วได้เริ่มกิจกรรมให้ผู้สูงอายุแลกเปลี่ยนความรู้ สอนทำอาหาร สอนปลูกผัก สมุนไพร เกษตรกรรม และสอนภาษาทั้งอังกฤษและจีนให้ผู้สูงอายุด้วยกันเอง รวมทั้งให้ผู้สูงอายุได้ถ่ายทอดภาษาจีน หรือภูมิปัญญาพื้นบ้านให้กับเด็กๆ ในพื้นที่ ซึ่งจะให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมหยอดเงินในกระปุกตามความศรัทธา เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

 

 

ส่วนกรณีที่มีผู้ใช้โซเชียลจำนวนมากแชร์ภาพป้ายโฆษณารับฝากผู้อายุนั้น พูลไท เล่าว่า เพิ่งได้เริ่มคิดค่าบริการดังกล่าวเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา เพื่อนำเงินมาปรับปรุงสถานที่ ห้องน้ำ และจัดที่นอนกลางวันให้กับผู้สูงอายุ

ปัจจุบันมีผู้สูงอายุในพื้นที่ใช้บริการ วันละ 3-5 คน ส่วนวันอาทิตย์มีกิจกรรมสอนภาษาอังกฤษ จะมีผู้เข้าใช้บริการ 8-10 คน แต่พูลไท ยืนยันว่า เขาไม่มีแผนขยายกิจการ และไม่รับดูแลผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย เนื่องจากตัวเองอายุมากแล้ว และเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ แต่ต้องการให้พื้นที่อื่นนำไปจัดกิจกรรม และสร้างคุณค่าให้กับผู้สูงอายุ รองรับสังคมสูงวัยที่ไทยกำลังเผชิญ

 

 

ขณะที่นางเลี่ยงไกว แซ่เลี่ยง วัย 78 ปี หนึ่งในผู้เข้ารับบริการ เล่าว่า ชอบเข้ามานั่งพูดคุยกับเพื่อนๆ แก้เหงา และรู้สึกอบอุ่น คลายความเครียดเมื่อต้องอยู่ห่างจากลูก อีกทั้งได้ถ่ายทอดภาษาจีนให้กับเด็กๆ ในชุมชน รวมทั้งได้ความรู้จากการร่วมกิจกรรมต่างๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ได้ขอให้นายพูลไทขึ้นทะเบียนสถานดูแลผู้สูงอายุให้ถูกต้อง ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า ไม่มีเจตนากระทำผิดกฎหมาย และยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยต้องมีการพูดคุยรายละเอียดให้ชัดเจน เพราะปกติจะรับฝากเฉพาะผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้เท่านั้น ส่วนผู้สูงอายุที่มีอาการเจ็บป่วย หรือผู้ป่วยติดเตียง จะประสานให้หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เข้ามาดูแล

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง