วันนี้ (4 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้ว่าได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึกครอบคลุมทุกพื้นที่ คลื่นลมสูง ซัดหาฝั่งอย่างต่อเนื่องยิ่งใกล้ค่ำยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะเดียวกันยังพบว่าบ้านเรือนที่อยู่ริมหาดนางกำ ได้รับผลกระทบต้นมะพร้าวหักโค่นทับบ้านเรือนแต่โชคดีที่พวกเขาอพยพออกไปจากชุมชนก่อนจึงทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต
ส่วนภายในศูนย์พักพิงวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อ.ดอนสัก จ.สุราฏร์ธานี มีชาวบ้านประมาณเกือบ 100 คน อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังเริ่มเห็นว่าคลื่นลมในทะเลนั้นสูงขึ้นตั้งแต่ 2 ถึง 3 เมตร
ขณะที่ชาวบ้านยังคงกังวลเกี่ยวกับน้ำทะเลมีการยกตัวขึ้นสูง หรือ สตอร์ม เซิร์จ แม้ว่าจะอาศัยอยู่กับน้ำทะเลมาตั้งแต่เกิดแต่ก็ไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเพราะระหว่างที่นั่งออกมาจากบ้าน เรือก็เกือบพลิกคว่ำ
พรนภา วงศ์วรรณ บ้านปากดอนสัก หมู่ 7 อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ระบุว่า กังวลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กหรือข่าวที่ติดตามว่าจะมีฝนตกหรือลมแรง แต่ที่กังวลมากที่สุด คือ เรื่องของสตอร์ม เซิร์จ
หลานที่วิ่งเรือจ้างบอกว่าปกติไม่กลัวคลื่นลมอยู่แล้ว เพราะเราเป็นคนทะเล หากินในทะเล แต่ครั้งนี้เป็นสตอร์ม เซิร์จ เขาเลยติดสินใจจะไม่วิ่งเรือ
ทั้งนี้ การแจ้งเตือนภัยถึงระดับการยกตัวสูงของน้ำทะเลที่จะเพิ่มสูงประมาณ 5 เมตร ตามแนวชายฝั่ง 7 อำเภอของสุราษฎร์ธานี ก็ทำให้ชาวบ้านยังไม่กล้ากลับเข้าไปในชุมชนซึ่งหลายคนคาดการณ์ว่าน่าจะอีกประมาณ 2 วันจึงจะกลับบ้านได้ตามปกติ
อุไร สารทเจริญ บ้านปากดอนสัก หมู่ 7 อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เล่าว่า ขณะที่นั่งเรือมาลมแรงมาก และคลื่นใหญ่มาก เรือโคลงเคลงมากกว่าปกติ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัวมาก
ทั้งนี้ สำหรับ จ.สุราษฎร์ธานี มีรายงานว่า ต้องเฝ้าระวังพื้นที่ 3 อำเภอ คือ ดอนสัก ไชยา และท่าชนะ โดยเฉพาะที่ อ.ดอนสัก ที่เปรียบเสมือนพื้นที่อ่อนไหวของสุราษฎร์ธานีเนื่องจากจะได้รับผลกระทบจากแนวปะทะของคลื่นลมโดยตรง คลื่นลมบริเวณนี้จะสูงในเวลา 18.00 น เป็นต้นไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน "พายุโซนร้อนปาบึก" จ่อเข้าสุราษฎร์ธานี