"กรมชลประทาน" เร่งสูบน้ำท่วมภาคใต้คาด 1 สัปดาห์คลี่คลาย

ภัยพิบัติ
5 ม.ค. 62
20:12
485
Logo Thai PBS
"กรมชลประทาน" เร่งสูบน้ำท่วมภาคใต้คาด 1 สัปดาห์คลี่คลาย
กรมชลประทาน ระดมเครื่องจักร อุปกรณ์เข้าระบายน้ำในพื้นที่ภาคใต้จากอิทธิพลพายุปาบึก คาดภายใน 1 สัปดาห์สถานการณ์น้ำท่วมเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศพายุปาบึก ยังส่งผลทำให้ฝนตกหนัก คลื่นสูง 3-5 เมตร

วันนี้(5 ม.ค.2562) เมื่อเวลา 15.00 น.นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 25พายุปาบึก บริเวณทะเลอันดามัน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 55 กิโลเมตร จากชายฝั่งทางทิศตะวันตก ของอ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หรือที่ละติจูด 9.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 97.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุนี้ได้มีการเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนทางตะวันตกเล็กน้อย ความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำได้

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นไปและทะเลอันดามันตอนบนตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นไปยังคงมีกำลังแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากลมแรงและคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรงดการเดินเรือต่อไปอีก 1 วัน

 

ระดมสูบน้ำช่วยคนใต้คาด 1 สัปดาห์

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้เตรียมพร้อมระดมเครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงเจ้าหน้าที่จากจังหวัดที่ไม่ประสบภัยทั่วประเทศพร้อมมาเสริมในพื้นที่ภาคใต้ และจากการประเมินสถานการณ์ พายุ ปาบึก แม้จะออกจากไทยวันนี้ ยังมีปริมาณฝนสะสมจนถึงวันที่ 6 ม.ค.นี้ ประมาณ 300 มิลลิเมตร ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ ซึ่งถือว่าเป็นฝนหนักมาก

ทั้งนี้ได้สำรองเครื่องสูบน้ำไว้อีก 453 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 300 เครื่อง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 82 เครื่อง รถขุดและรถแทรกเตอร์ 108 คัน สะพานเหล็กแบบถอดประกอบได้ 5 ชุด และเครื่องจักร-เครื่องมืออื่นๆ กระจายอยู่ครอบคลุมทั้ง 16 จังหวัด

 

โดยกรมชลประทาน ได้วางแผนรับสถานการณ์มาล่วงหน้า จึงคาดว่าจะสามารถเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ ได้หมดภายใน 1 สัปดาห์

นายทองเปลว กล่าวว่า พื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองนครศรีธรรมราชตามซอยต่างๆ มีน้ำท่วมขัง 10 –30 เซนติเมตร ระดับน้ำในลำน้ำสำคัญได้แก่ ต้นน้ำคลองท่าดี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.10 เมตร  ส่วนเขต อ.เมืองต่ำกว่าตลิ่ง 2 เซนติเมตร มีแนวโน้มลดลง คลองนครน้อย หน้าเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช น้ำสูงกว่าตลิ่ง 20 เซนติเมตร และบ้านวังไทร อ.ลานสกา ที่เกิดล้นตลิ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะนี้ลดต่ำกว่าตลิ่งแล้ว 1.09 เมตร

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เดือดร้อนหนัก ! พระ-ชาวบ้านปากพนัง เจอน้ำโคลนท่วมขัง

เตือน! "ทะเลตะวันออก" น้ำทะเลหนุนสูงจากพิษปาบึก

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง