วันนี้ (8 ม.ค.2562) นางอินทิรา โภคบปุณญารักษ์ ผู้อำนวยการ อคส. ระบุว่า ได้ส่งเรื่องให้อัยการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้เกี่ยวข้องทันตามกำหนดเวลา โดยความเสียหายทั้งหมด 246 สัญญา เป็นสัญญาฝากเก็บ 167 สัญญา และสัญญากับบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว 79 สัญญา คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งกรณีข้าวหาย ข้าวเสื่อมคุณภาพ และข้าวผิดประเภท ทั้งนี้ อคส.ได้ส่งเรื่องแล้ว 2 ครั้ง คือ วันที่ 30 พ.ย. และวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่อัยการต้องเร่งส่งฟ้องศาล ก่อนสิ้นอายุความตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.- 5 ส.ค.นี้
สำหรับความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว แบ่งเป็นโครงการรับจำนำข้าวปี 2551/2552, ปี 2554/2555, ปี 2555/2556 และปี 2556/2557 ส่วนคดีอาญาอีก 884 คดี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทยอยส่งฟ้องศาลอย่างต่อเนื่อง
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า การเร่งดำเนินการเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะเป็นตัวอย่างให้เอกชน หรือผู้ที่จะกระทำผิดในอนาคต ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าวในช่วงโครงการรับจำนำข้าวถูกตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจ บางแห่งมีทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาท แต่สร้างความเสียหายให้กับรัฐมากมาย กรณีที่ภาครัฐดำเนินการฟ้องร้องค่าเสียหายถือว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่เชื่อว่าการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งคงไม่แล้วเสร็จภายในปีนี้ และอาจใช้เวลานาน เนื่องจากเป็นการฟ้องแพ่งที่มีถึง 3 ศาล
