วันนี้ (15 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) พบพื้นที่ริมถนนตรวจวัดได้ระหว่าง 53-80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยังเกินค่ามาตรฐาน 19 พื้นที่ สาเหตุยังมาจากสภาพอากาศและจราจร
ส่วนพื้นที่ทั่วไป วัดได้ 48-83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐาน 15 พื้นที่ สาเหตุเกิดจากสภาพอากาศ รวมแล้วมี 30 จุด ที่คุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพ ส่วนวันนี้คาดการณ์ว่า คุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์ที่เริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพ
ส่วนข้อมูลจาก Air Viual ระบุว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เวลา 04.00 น. ถึงวันนี้ เวลา 03.00 น. ช่วงที่มีปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 สูงเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเช้ามืดไปจนถึงช่วงบ่าย ส่วนวันพรุ่งนี้ คาดการณ์ว่าคุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์ที่เริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพเช่นกัน แต่ปริมาณ PM 2.5 มีแนวโน้มที่จะลดลงเล็กน้อย
นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า คาดว่าในวันนี้อาจมีโอกาสจะทำฝนเทียมได้ ส่วนสถานการณ์ PM 2.5 ช่วง 1-2 เดือนนี้ จะขึ้นๆ ลงๆ แต่จะไม่ขึ้นสูงติดต่อกันหลายวัน เพราะมีการดำเนินมาตรการลด PM 2.5 ในหลายมิติ
สำหรับมาตรการในอนาคตเตรียมเชิญค่ายรถยนต์มาพูดคุยถึงการใช้น้ำมัน B20 และใช้ไฟฟ้าใหม่มากขึ้น เพราะจะช่วยลด PM 2.5 ได้ร้อยละ 15 และในอีก 3 ปีข้างหน้า เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จก็คาดว่า ปริมาณ PM 2.5 จะลดลงเช่นกัน เพราะคนจะหันไปใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น และลดใช้รถยนต์ส่วนตัวลง