กรมควบคุมมลพิษ รายงานดัชนีคุณภาพของอากาศวันนี้ (19 ม.ค.2562) ระบุ ช่วงเช้าอากาศลอยตัวได้ดี มีเมฆมากบางพื้นที่ ไม่มีฝน ส่งผลทำให้สถานการณ์ PM2.5 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล คุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับดี ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง
พื้นที่ริมถนน คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 2 พื้นที่ สาเหตุมาจากการจราจร ขณะที่พื้นที่ทั่วไป (ห่างจากริมถนนสายหลัก) คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดี มีค่าเกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 1 พื้นที่
ทั้งนี้ เวลา 12.00 น. พื้นที่ริมถนน อยู่ในระดับปานกลาง เกินค่ามาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 6 พื้นที่ พื้นที่ทั่วไป อยู่ในระดับปานกลาง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) ทุกพื้นที่ โดยรวมปริมาณฝุ่นละออง มีเพิ่มขึ้นจากเวลา 7.00 น.
กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์ว่าคุณภาพอากาศในวันพรุ่งนี้จะอยู่ในระดับ "ปานกลาง" ถึง "เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ" ในบางพื้นที่ และจากแบบจำลองการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พื้นที่ กทม. ในวันที่ 20 ม.ค. 62 อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้เกิดสภาวะอากาศปิด ทำให้ฝุ่นละอองอาจเพิ่มขึ้นได้
สอดคล้องกับกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าความกดอากาศจะเบาลง สภาพอากาศของกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะนิ่งอยู่กับที่และจะมีหมอกเกิดขึ้นวันที่ 19 ม.ค. โดยอาจมีลมบ้างเล็กน้อย แต่หนักสุดในวันที่ 20 ม.ค. ซึ่งอาจจะเกิดการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ตลาดนัดจตุจักร ปริมาณฝุ่น PM 2.5 อยู่ในเกณฑ์ระดับสีเหลือง มีฝุ่นอยู่ในระดับปานกลาง ยังไม่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ค่า AQI อยู่ที่ประมาณ 43 มคก./ลบ.ม. ยังคงมีนักท่องเที่ยว และประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก
กลุ่มผู้ค้าร้องเรียนว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดฝุ่นขนาดเล็กสะสม คือรถแท็กซี่ ที่วนเข้ามารับผู้โดยสาร ทำให้รถติดจอดแช่คันละไม่ต่ำกว่า 10 นาที กลุ่มผู้ค้าที่อยู่ริมถนนก็ต้องช่วยกันโบกรถ เพื่อระบายรถและลดฝุ่น ที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์
สำหรับการตื่นตัวสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น เห็นได้ชัดว่ามีเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ติดตามข้อมูลข่าวสาร เผย 1-2 วันนี้ฝุ่นจะกลับมาสะสมอีกครั้งจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย