วันนี้ (22 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมรุลอยนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก สำหรับใช้ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) คณะศิลปกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะผู้ร่างและออกแบบ ใช้โปรแกรม 3 มิติเข้าช่วยจนสามารถสร้งสรรค์เมรุลอยที่ลงตัวและสวยงาม
สำหรับภาพ 3 มิติเมรุลอยนกหัสดีลิงค์ ซึ่งอาจารย์จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมร่างและออกแบบมานานกว่า 1 ปี จนกระทั่งได้แบบที่ลงตัว นำไปสู่การสร้างเมรุลอยในปัจจุบัน
โจทก์ของการสร้างเมรุลอยที่เรียบง่าย ฌาปนสถานชั่วคราวซึ่งเป็นที่โล่ง ไม่มีต้นไม้ จึงเริ่มจากการออกแบบฐานเมรุลอย 8 เหลี่ยม โดยรอบมีองค์ประกอบ คือ ธรรมมาสบุษบก 4 หลัง ทำให้สามารถสร้างเมรุลอยนกหัสดีลิงค์สูงเท่ากับตึก 5 ชั้นได้
นกหัสดีลิงค์ ปากเป็นช้าง หางเป็นหงส์ เคลื่อนไหวได้ ส่วนลายกลีบและเกสรดอกคูณปรากฏบนตัวนก ภายในตัวนกหัสดีลิงค์ ด้านล่างมีโลงสแตนเลส บรรจุเตาเผาออกแบบพิเศษ ภายในเตาเผามีกองฟืนจากไม้จิก 136 ต้น ซึ่งเป็นไม้อีสานโบราณนิยมใช้กับพระเกจิ บนเตาเผาเป็นหีบศพบรรจุสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ส่วนโลงที่เห็นนั้นเป็นโลงหีบเอวขันประกอบเกียรติยศ หรือ โลงหลอก
รศ.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปศาสตร์ ม.ขอนแก่น ระบุว่า ในเตาเผาประกอบด้วยโลง 2 ส่วน คือ ส่วนที่อยู่ล่างสุด เป็นโลงสแตนเลส ซึ่งแตกต่างจากของประชาชนทั่วไป ตามพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณที่ต้องการให้จัดงานที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดังนั้น การใช้โลงสแตนเลสเป็นโลงชั้นล่างเพื่อช่วยรองรับเถ้าอัฐิของหลวงพ่อคูณ ก่อนจะนำไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง
รอบเมรุลอยตกแต่งบรรยากาศคล้ายเขาพระสุเมรุซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ชั้นนอกเรียกว่าชั้น กำแพงแก้ว จะมีทวารบาน ซึ่งเป็นผู้เฝ้าประตู คือ พญานาค 8 ตน และชั้นบันไดนาคราช หรือชั้นในอีก 8 ตน รอบเขาพระสุเมรุ มีสัตว์หิมพานต์ 32 ตัว สระอโนดาต สะพานนาคราชซึ่งเชื่อมระหว่างมนุษย์กับสวรรค์ ทั้งหมดนี้ออกแบบตามตำนานนกหัสดีลิงค์และจินตนาการเขาพระสุเมรุซึ่งเป็นที่อยู่ของเทพ
ทั้งนี้ สำหรับนกหัสดีลิงค์ ซึ่งภายในบรรจุหีบศพหลวงพ่อคูณ จะถูกเผาภายหลังการเผาสรีรสังขารหลวงพ่อคูณประมาณครึ่งชั่วโมงตามขนบประเพณีอีสาน เพื่อส่งดวงวิญญาณพระมหาเถระสู่สรวงสวรรค์
