ฝุ่น PM 2.5 : นักวิชาการแนะ "ดูดฝุ่นลงแม่น้ำ" ย้ำปลอดภัย 100%

สิ่งแวดล้อม
31 ม.ค. 62
12:44
6,632
Logo Thai PBS
ฝุ่น PM 2.5 : นักวิชาการแนะ "ดูดฝุ่นลงแม่น้ำ" ย้ำปลอดภัย 100%
อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสนอ 4 แนวทางลดฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะการดูดฝุ่นลงแม่น้ำ ย้ำปลอดภัย 100%

วันนี้ (31 ม.ค.2562) รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า เวลา 14.00 น.ของวันนี้ ตัวเองจะร่วมหารือกับกรุงเทพมหานคร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาทางแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมเสนอ 4 แนวทางแก้ปัญหาระยะสั้น ได้แก่

 

  • การติดตั้งเครื่องกรองอากาศขนาดใหญ่ ลักษณะเดียวกับที่ใช้ในประเทศจีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน ใช้งบประมาณเครื่องละ 60 ล้านบาท รัศมี 10 ตารางกิโลเมตร แต่ย้ำว่าต้องดูแลและตรวจสอบประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ

 

  • การดูดฝุ่น PM 2.5 ลงแม่น้ำเจ้าพระยา หรือสระว่ายน้ำของเอกชน โดยดำเนินการให้มากที่สุด หรือกว่า 1,000 จุด เพราะเมื่อ PM 2.5 ละลายน้ำแล้วจะเปลี่ยนเป็นสารประกอบที่ปลอดภัย
พ่นละอองน้ำไล่จับ PM 2.5 ตัวเล็ก ๆ บนอากาศมันยาก เราดูดลงแม่น้ำง่ายกว่า จับได้ 100% เมื่อเจอน้ำจะเปลี่ยนเป็นสารประกอบที่ปลอดภัย

 

  • ติดตั้งต่อท่อละอองน้ำ ลักษณะเดียวกับที่ใช้ในสวนกล้วยไม้ บริเวณใต้เส้นทางของรถไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ

 

  • ติดตั้งระบบ evaporative ริมถนนต่างๆ ซึ่งเครื่องดังกล่าวเป็นที่นิยมใช้ในสวน หรือในไร่ ลักษณะตัวเครื่องเหมือนรังผึ้งที่มีน้ำไหลผ่าน และมีพัดลมดูดอากาศผ่าน ทำให้สามารถดักจับ PM 2.5 ได้

 

ส่วนการใช้โดรนขนาดเล็กที่บรรทุกน้ำขึ้นไปฉีดพ่นฝุ่นละออง อาจช่วยลดฝุ่นละอองได้ไม่มากนัก โดยโรงเรียนการบินกรุงเทพ​ เสนอให้ใช้เครื่องบิน 47 ลำฟรี บินเป็นแถวครั้งละ 20 ลำ บรรจุน้ำได้เที่ยวละ 140 ลิตร สเปรย์เป็นละอองน้ำผ่านใต้ปีกเครื่องบิน ด้วยหลักการของ “แอโรไดนามิค” ปั่นให้เป็นละอองน้ำขนาดเล็ก และจับฝุ่น PM 2.5 ลงมาด้านล่างได้

รศ.วีรชัย ขอให้ประชาชนร่วมแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย ทั้งการลดกิจกรรมที่เพิ่ม PM 2.5 การเผากลางแจ้ง และรัฐบาลควรจัดหาหน้ากากแจกจ่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ การใช้มาตรการวันหยุดช่วยชาติ เหมือนช่วงปีใหม่และสงกรานต์ พร้อมมองว่ามาตรการหยุดการเรียนการสอนเป็นแนวทางที่ดี เพราะอากาศนิ่งขึ้นเรื่อย ๆ สภาพอากาศปิด และฝุ่น PM 2.5 จะมีปริมาณสูงในช่วงเช้า ซึ่งสถานการณ์จะคลี่คลายในเดือนมีนาคม

 

อากาศไม่เลือกคนรวยคนจน ทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด อยากให้ทุกคนช่วยกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง