วันนี้ (22 ก.พ.2562)นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษนัดแรก ซึ่งพิจารณาประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการครอบครองกัญชาเพื่อใช้รักษาโรค ศึกษาวิจัยไม่ต้องรับโทษ หรือนิรโทษ 3 ฉบับ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ผู้ครอบครองกัญชาใน 3 กลุ่ม ได้แก่ แพทย์-นักวิจัย-วิสาหกิจชุมชน ผู้ป่วย และกลุ่มอื่นๆ มาลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิไม่ต้องรับโทษตามกฎหมายได้ที่ อย.และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
พร้อมกับปรับแก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ป่วยนำใบ ดอก ของกัญชามาใช้ในการรักษาได้ จากเดิมกำหนดเพียงเรื่องยาที่ปรุงบรรจุเสร็จ น้ำมันสารสกัด แต่เฉพาะบุคคลเท่านั้น
ขณะที่ตำรับยาแผนไทยที่มีส่วนผสมของกัญชา เบื้องต้นสามารถปรุงได้ 16 ตำรับ แต่ผู้ปรุงยาต้องเป็นผู้ได้รับการอนุญาตจากกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ปัจจุบันมีหมอพื้นบ้านที่ผ่านการรับรองกว่า 3,000 คน แต่ทั้งหมดจะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรจากกรมการแพทย์อีกครั้ง หากต้องการใช้กัญชารักษาโรค เช่นเดียวกับแพทย์แผนปัจจุบัน ที่ต้องผ่านการอบรมด้วย
ยันกฎหมายไม่อนุญาตให้ปลูกกัญชาเสรี
นอกจากนี้ยังเห็นชอบร่างกฎกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออกจำหน่าย หรือ มีไว้ในครอบครองกัญชา โดยครอบคลุมว่าการผลิต จำหน่าย หรือปลูกกัญชา 5 ปีแรก ต้องทำร่วมกับหน่วยงานของรัฐ
ส่วนภาคเอกชนหากเป็นนิติบุคคล ต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 ใน 3 เป็นผู้มีสัญชาติไทย ทั้งนี้จะจัดทำประชาพิจารณ์ร่างกฎกระทรวงการผลิต และประกาศตำรับยาแผนไทย รวมทั้งวิชาชีพในการผลิตและปรุงยา ในวันที่ 26 ก.พ.นี้
ส่วนกรณีที่มีบางพรรคการเมืองนำนโยบายกัญชามาหาเสียง โดยระบุว่าปลูกได้อย่างเสรี เลขาธิการ อย.ยืนยันว่าตามกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ไม่อนุญาต เพื่อให้เกิดการควบคุมการใช้กัญชาอย่างเหมาะสม ไม่เป็นอันตราย และหากจะปลูกต้องทำร่วมกับหน่วยงานรัฐ และต้องรายงานการปลูก การผลิต การส่งออก แจกแจงวัตถุประสงค์การปลูก เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.ยาเสพติด ใช้ "กัญชา-กระท่อม" ทางการแพทย์ได้
อย.เร่งร่างประกาศนิรโทษ 3 กลุ่มผู้ครอบครองกัญชา