วันนี้ (26 ก.พ.2562) แม้ว่าหลายจังหวัดทางภาคเหนือจะใช้มาตรการเชิงรุก แต่ยังไม่สามารถลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศลงได้ ขณะที่ฝุ่นควันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย จ.แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐานติดต่อกัน 3 วันแล้ว ซึ่งทางจังหวัดได้ประกาศห้ามเผาเด็ดขาด เป็นเวลา 2 เดือน
ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ช่วยกันดับไฟป่า และลำเลียงรถบรรทุกน้ำ รถดับเพลิง ฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อลดฝุ่น PM2.5 หลังวานนี้ (25 ก.พ.) ค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐานขึ้นไปอยู่ในระดับเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังพบ จุดความร้อน หรือ Hotspot 96 จุด ส่วนใหญ่อยู่ใน อ.ปาย
นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งคณะทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก และประกาศห้ามเผาเด็ดขาด ช่วง 61 วันอันตราย ตั้งแต่ 1 มี.ค.-31 เม.ย.นี้ ส่งผลให้ประชาชนที่จะเข้าไปหาของป่า ต้องแจ้งผู้นำหมู่บ้านทุกครั้ง ห้ามนำน้ำมันที่ติดไฟง่าย และไฟแช็กเข้าป่าเด็ดขาด ส่วนเกษตรกรสามารถเข้าไปทำไร่ทำสวนได้ตามปกติ
จัดชุดลาดตระเวนจับผู้ลักลอบเผาป่า จ.พะเยา
ส่วนเจ้าหน้าที่ใน จ.พะเยา ใช้วิธีการลาดตระเวนกดดันผู้ที่ลักลอบเข้าป่าและเผาป่า และตั้งจุดตรวจสกัด ยึดอุปกรณ์เผาป่า หลังค่าฝุ่น PM 2.5 และ PM 10 เกินค่ามาตรฐาน และหมอกควันยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์น่าเป็นห่วง เพราะช่วงนี้อากาศแห้ง เริ่มมีเศษใบไม้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ติดไฟ และไฟลุกลามได้ง่าย จึงต้องเฝ้าระวัง และขอความร่วมมือประชาชนงดเผาทุกชนิด
ทำแนวกันไฟรอบวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จ.บุรีรัมย์
ขณะที่ หัวหน้าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จ.บุรีรัมย์ นำเจ้าหน้าที่ออกทำแนวกันไฟตามจุดเสี่ยงรอบเขตป่าวนอุทยาน ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร เพื่อป้องกันไฟป่า ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงหน้าแล้ง และมีลมกระโชกแรง เนื่องจากวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง เป็นแหล่งท่องเที่ยว ศึกษาธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ปากปล่องภูเขาไฟ เนื้อที่กว่า 1,400 ไร่ หากเกิดไฟไหม้ จะกระทบต่อการท่องเที่ยว ระบบนิเวศน์ และแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า
คุมเข้มรถควันดำ จ.สระบุรี อากาศดีขึ้น
ตำรวจจราจร สภ.หน้าพระลาน จ.สระบุรี เข้มงวดกวดขัน รถบรรทุกหินและดินลูกรัง หากพบฝ่าฝืน ไม่คุมผ้าใบ และมีควันดำ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และยังได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงโม่หิน ที่ฉีดล้างฝุ่นละอองภายในโรงโม่ และ ถ.พหลโยธิน อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ ซึ่งเกินค่ามาตรฐานมานับ 10 ปี ลงมาอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศดี และดีเยี่ยมในบางวัน
ส่วนแผนงานและประมวลผลกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานว่า วานนี้ (25 ก.พ.) มีพื้นที่ที่คุณค่าภาพอากาศ เกินค่ามาตรฐาน ในภาคเหนือและอีสาน ในระดับเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กยังไม่ลดลง หากเปรียบเทียบกับวันก่อนหน้าส่วนจุดความร้อน หรือ Hotspot ในภาคเหนือ พบ 191 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่