คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย รับฟังปัญหาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการใช้และสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ในพื้นที่ ต.ด่านช้าง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ขณะเดินทางมาพบปะกับที่ได้รับผลกระทบจากสารเคมีโดยเฉพาะ
ปัญหาสารเคมีตกค้าง และผลกระทบจากผู้ใช้สารเคมี รวมทั้งการผลักดันด้านเกษตรอินทรีย์ เป็นนโยบายหลัก ที่พรรคการเมือง ต่าง หยิบหยก มาปราศรัยกับชาวบ้าน เพื่อขอคะแนนเสียง จ.หนองบัวลำภู แบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 3 เขต มีผู้ลงสมัครแข่งขัน 103 คน
ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา เสนอเพิ่มราคาผลผลิตทางการเกษตร และอ้างถึงผลงานของพรรคตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา ที่เคยคลุกคลีกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มายาวนาน นอกจากนี้ ยังพร้อมสนับสนุนเพิ่มแหล่งเงินทุน และผลักดันธนาคารต้นไม้หากได้รับเลือกตั้ง และเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แม้ว่าก่อนหน้านี้ พรรคชาติพัฒนา ยังไม่เคยได้ปักธงที่ จ.หนองบัวลำภู
เขตเลือกตั้งที่ 1 มีผู้สมัคร ส.ส.ในครั้งนี้ 33 คน ส่วนใหญ่ เป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่น และทายาทนักการเมืองรุ่นเก่าในพื้นที่ โดยพรรคการเมืองที่น่าจับตามอง คือผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอดีตประธานสภา อบจ.หนองบัวลำภู โดยมีแรงหนุนจากกลุ่มสายปกครองหมู่บ้าน พรรคเพื่อไทย ส่งนายสยาม หัตถสงเคราะห์ ลูกชายคนเล็กของตระกูลนักการเมืองหลายสมัย ลงแข่งขันแทนพี่ชาย ที่เปลี่ยนไปลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อแทน
เขตเลือกตั้งที่ 2 มีผู้สมัคร ทั้งหมด 36 คน แต่ที่น่าจับตามอง คือนายไชยา พรหมา พรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู หลายสมัย นายวุฒิพงษ์ ศิริสถิตย์ พรรคภูมิใจไทย อดีตผู้สมัคร ส.ส.หนองบัวลำภู ที่มีคะแนนสูสี มาโดยตลอด
เขตเลือกตั้งที่ 3 ก็ยังจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยอย่างนายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ทายาททางการเมือง ของนายวิชัย สามิตร อดีต ส.ส. เป็นคนคอยสนับสนุนวางแผนในการเดินทางหาเสียง จากฐานคะแนนเก่าของตนเอง แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ ก็มีคู่แข่งคนสำคัญ คือนายประพาส นวนสำลี จาากพรรคพลังประชารัฐ เคยเป็นอดีต ส.ว.หนองบัวลำภู และเป็นหัวคะแนนในการหาเสียงเลือกตั้งให้กับพรรคเพื่อไทยมาก่อน
ก่อนหน้านี้ เก้าอี้ ส.ส. ทั้ง 3 เขต เป็นของพรรคเพื่อไทย ซึ่งฐานเสียงส่วนใหญ่ มั่นคงและหนาแน่น มาตั้งแต่ยังเป็นพรรคไทยรักไทย แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ อาจต้องสู้กันที่นโยบาย เพราะผู้ลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ล้วนแต่มีฐานเสียงของตนเอง