วันนี้ (7 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ นำคณะเดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อรับฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรค ตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ที่ยื่นขอให้พิจารณามีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ ด้วยข้อกล่าวหา "อันควรเชื่อได้ว่า" กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92 วงเล็บ 2 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา พรรคไทยรักษาชาติได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยมี 3 ประเด็นหลัก 8 ข้อย่อย ซึ่งสาระสำคัญคือ 1.การยืนยันในเจตนาบริสุทธิ์และย้ำในคำยินยอม 2. คือการปฏิเสธข้อกล่าวหาการเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครอง โดยชี้ไปที่เจตจำนงค์อันเป็นประสงค์ของผู้ได้รับการเสนอชื่อ ไม่ใช่การดำเนินการโดยพลกาล และ 3 คือการชี้แจงเพิ่มเติมว่าคำร้องของ กกต.ลงมติยื่นคำร้องต่อศาลฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะปมการพิจารณาที่ ไม่มีการสืบสวนและไต่สวนข้อเท็จจริงก่อน
กระทั่งวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติว่า คดีนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมาย มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ โดยไม่ต้องทำการไต่สวน พร้อมแจ้งว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะได้ประชุม แถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในเวลา 13.30 น. ก่อนจะมีคำสั่งให้คู่ความคือผู้ร้องและผู้ถูกร้องได้ฟังคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น. วันนี้ (7 มี.ค.)
ทั้งนี้ กรอบการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะมี 5 ประเด็นหลัก เริ่มตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรับคำร้องไว้หรือไม่, มติ กกต. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่, คำชี้แจงของพรรคไทยรักษาชาติฟังขึ้นหรือไม่, การเสนอบัญชีนายกรัฐมนตรีขัดกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 92 หรือไม่ และหากยุบพรรคกรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คน ต้องร่วมรับผิดชอบหรือยกเว้น นายรุ่งเรือง พิทยสิริ ที่ยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยว่าให้ "ยุบพรรคการเมือง" (ไทยรักษาชาติ) เพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของคณะกรรมการของพรรค และกำหนดระยะเวลาที่เป็นสิทธิทางการเมืองในฐานะผู้สมัคร 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค และผู้เคยดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรค จะไปจดทะเบียน หรือจัดตั้งพรรคไม่ได้ภายใน 10 ปี
ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จากที่ได้รับฟังคำวินิจฉัย ยืนยืนว่าน้อมรับพระราชโองการในวันที่ 8 ก.พ.2562 ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ คำวินิจฉัยเป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้รับทราบและขอบคุณประชาชนที่เคียงข้างพรรคมาโดยตลอด
ขอขอบคุณทุกกำลังใจ แม้ว่าพรรคจะตั้งมาได้ 4 เดือน แต่ก็ได้รับความเมตตาจากพี่น้องประชาชน
ร.ท.ปรีชาพล ระบุอีกว่า อยากเห็นการเมืองไปในทิศทางที่ดี ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังที่ทำการพรรคด้วยสีหน้าเคร่งเครียด