แกะรอยเส้นทาง "หมอ-นายทุน" ลักลอบขายยาลดอ้วนอันตราย

สังคม
12 มี.ค. 62
19:20
1,858
Logo Thai PBS
แกะรอยเส้นทาง "หมอ-นายทุน" ลักลอบขายยาลดอ้วนอันตราย
ตำรวจเรียกสอบแพทย์ 2 คนจากทั้งหมด 70 คนที่อาจเข้าข่ายลักลอบขายยาเฟนเตอร์มีน ยาลดอ้วนแอบมาลักลอบขายผ่านออนไลน์ แฉวิธีการของบริษัทยา ทาบทามให้หมอสั่งยาเฟนเตอร์มีน ด้านแพทยสภา ตั้งคณะกรรมการสอบสวนชี้มูลความผิด

กรณีที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจสอบปัญหากลุ่มนายทุน ร่วมมือกับแพทย์ในเครือข่ายลักลอบนำยาลดความอ้วน ที่จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตัวยาเฟนเตอร์มีน ที่ใช่ชื่อการค้า Duromine และ Panbesy ออกนอกระบบการควบคุมของ อย.โดยนำไปขายผ่านออนไลน์ ที่พบว่าอาจจะมีแพทย์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการซื้อยากว่า 70 คน

วันนี้ (12 มี.ค.2562) ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ออกหมายเรียกแพทย์แล้ว 2 คนที่มีพฤติกรรมสั่งซื้อยาจากอย.แล้วไปขายต่อให้เอเย่นขายในโลกออนไลน์ ถือว่าสมคบกันทำผิดตามกฎหมายยาเสพติด

ทั้งนี้หลังจากตำรวจปราบปรามยาเสพติด บุกเข้าไปจับนางสาววิไรรัตร อุดทอง ผู้ต้องหาที่ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 และ 4 ไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และการสืบสวนยังพบว่ามีแพทย์ไม่ต่ำกว่า 70 คน เข้าไปมีส่วนร่วมที่ซื้อยาลดความอ้วน และยานอนหลับ จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เพื่อนำส่งให้กับผู้ต้องหา 

พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้แพทย์ที่พบมีความผิดชัดเจน 2 คนเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามมาตรา 8 ของพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำควาผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ปี 2534 ในวันที่ 19 มีนาคมนี้ ซึ่งข้อหานี้ได้รับการเห็นชอบจากเลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ส.แล้ว


อย่าไปเหมารวมแพทย์ที่แสวงหาผลประโยชน์มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ทำผิด โดยวิธีการก็อาจจะเปิดคลินิกและหวังรวยทางลัด และเตือนคนที่จะใช้ยาลดอ้วนให้พบแพทย์ดีกว่า เพราะบางครั้งมีการเสียชีวิต รวมมีราคาแพงด้วย


คดีนี้พบว่ามีแพทย์ที่เปิดคลินิกในต่างจังหวัดไม่ต่ำกว่า70 คน ถูกเครือข่ายนี้ใช้เป็นผู้สั่งซื้อยาลดความอ้วน และยานอนหลับ ซึ่งเป็นยาควบคุมที่ต้องจ่ายโดยสำนักงาน อย.เท่านั้น และเมื่อแพทย์ได้สั่งซื้อยามาแล้ว หากตามขั้นตอนจะต้องใช้ในเฉพาะคลินิกที่เปิดเท่านั้น แต่กลุ่มนี้ก็จะสร้างเอกสารการจ่ายยาให้ผู้ป่วยปลอมขึ้นมาแล้วรายงานผลไปให้อย. แท้จริงแล้วยาทั้งหมดถูกส่งไปขายต่อในอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดอันตรายกับผู้บริโภค

 

 

ชี้กลตัวแทนบริษัทยาทาบทามหมอสั่ง "เฟนเตอร์มีน" 

 ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สหคลินิกเวชกรรมและกายภาพบำบัด ย่านอินทมาระ ซึ่งเปิดมาได้ 2 ปีแล้ว นพ.ฆนัท ครุธกูล ที่ปรึกษากรรมาธิการสาธารณสุข แพทย์เวรประจำคลินิก บอกว่า เขาเคยถูกตัวแทนจากบริษัทขายยา ทาบทามให้สั่งยาเฟนเตอร์มีน หรือ ยาลดความอ้วน ซึ่งออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทและทำให้เกิดการติดยาได้ แต่เขาปฏิเสธเพราะทราบว่าเป็นยาควบคุมพิเศษและผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ

เป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง และเตือนแพทย์ทั่วไปว่าควรจะต้องระมัดระวัง และบางครั้งทำอาจไปโดยไม่รู้ เพราะว่าส่งผลกระทบต่อตัวเองและวิชาชีพซึ่งแพทย์มีการคุยกับเอเจนซี่ได้ แต่ต้องมั่นคง

 

แต่ละเดือน แพทย์ต้องสั่งซื้อจากผ่านสำนักงานคณกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เข้ามายังสถานพยาบาล แต่ปัญหาที่พบคือ ยาตัวนี้ถูกจำหน่ายนอกระบบ ขณะที่แพทย์ปัจจุบันกลายเป็นถูกจ้างแขวนใบ หรือใช้ชื่อเปิดคลินิกเท่านั้น เขาจึงมีความเห็นว่าระบบที่ใช้ยังมีความหละหลวม และต้องปรับปรุงให้รัดกุมมากขึ้น

ปกติยาเฟนเตอร์มีน ต้องสั่งโดยแพทย์ และอย.จะดูเฉพาะใบรายงานที่ทำส่งไป เอาไปใช้ในคลินิกเวชกรรม และก็มีการสอบถาม และตัวหมอเองควรต้องติดตาม และสิ่งที่อย.ต้องทำถ้ามีการขายผ่านออนไลน์ ไปรษณีย์ ต้องติดตามและไปตรวจสอบ 

การจับกุมกลุ่มนายทุนที่ร่วมมือกับแพทย์ในเครือข่ายจำนวนกว่า 70 คน ลักลอบนำยาเฟนเตอร์มีนออกนอกระบบของอย. มาขายตามช่องทางสื่อออนไลน์และส่งออกไปขายยังต่างประเทศ

 

 

พล.อ.ต.นพ.อิทธิพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ระบุว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดปัญหาเช่นนี้ ขึ้น จึงเตรียมตั้งอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมการจริยธรรมสอบสวนเพื่อชี้มูล โดยมีคณะกรรมการ 2 ชุด ชุดแรกว่ามูลเหตุเกิดจากอะไร เป็นตัวแพทย์จริงหรือไม่ และต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องมา ต้องสอบสวนทั้งกระบวนการก่อนจะไม่ตัดสินทีเดียวต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย จากนั้นจะส่งให้คณะกรรมการสอบสวนพิจารณาความว่าความผิดเทียบเคียงแค่ไหน

ขณะนี้แพทยสภา อยู่ระหว่างประสานขอข้อมูลจากตำรวจ และ อย. เพื่อคัดกรองว่าแพทย์ที่ถูกกล่าวหาเป็นหมอเถื่อนหรือไม่ หากเป็นแพทย์ที่ขึ้นทะเบียนและพบว่ามีความผิดจริง โทษสูงสุดคือถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับขบวนการลักลอบขาย "เฟนเตอร์มีน" ฤทธิ์แรงเท่าเสพยาบ้า

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง