วันนี้ (21 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทยตั้งเป้าหมายชนะทั้ง 8 เขตเลือกตั้งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลวงในทางการเมืองของพรรค แต่หากย้อนไปดูสถิติการเลือกตั้งปี 2554 ซึ่ง จ.บุรีรัมย์ ยังมี 9 เขตเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยได้ ส.ส.ไป 7 ที่นั่ง ส่วนอีก 2 ที่นั่ง เสียให้ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ส่วนปี 2557 ซึ่งการเลือกตั้งถูกประกาศเป็นโมฆะด้วยเหตุผลทางการเมือง แต่เป็นสัญญาณอันตรายถึงพรรคภูมิใจไทย เพราะได้ ส.ส.ไปเพียง 5 ที่นั่ง อีก 4 ที่นั่งเสียให้กับพรรคเพื่อไทย
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่าการเลือกตั้ง 2 ครั้งดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์การเมือง และกิจกรรมของกลุ่ม นปช.กำลังเข้มข้น อาจเป็นแรงเสริมให้กับพรรคเพื่อไทย ครั้งนี้จึงน่าสนใจว่ากระแสของกลุ่ม นปช.จะช่วยเสริมคะแนนให้พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ฐานที่มั่นของพรรคภูมิใจไทยได้มากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยมีความเสี่ยงจะถูกพรรคเพื่อไทยเจาะได้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากแนวโน้มของการเลือกตั้ง 2 ครั้งหลัง สำหรับเขตเลือกตั้งที่ประเมินว่าเป็นงานหนักที่สุดของพรรคภูมิใจไทย คือเขต 6 อำเภอหลัก คือ อ.นางรอง เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง นายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน จากพรรคเพื่อไทย และนายไตรเทพ งามกมล อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จากพรรคภูมิใจไทย
เขต 6 ถูกมองว่าเป็นฐานที่มั่นแข็งแกร่งของพรรคเพื่อไทยจากแรงหนุนของกลุ่ม นปช.ในพื้นที่ และเป็นพื้นที่ฐานเสียงของนายพรชัย จากพรรคเพื่อไทย แต่ในมุมมองของ ผศ.นิรันดร์ กุลฑานันท์ นักวิชาการด้านการเมืองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ซึ่งผู้สังเกตการณ์การเมืองท้องถิ่น ได้ตั้งข้อสังเกตว่าแรงหนุนของกลุ่ม นปช.อาจลดน้อยลงในการเลือกตั้งครั้งนี้
นอกจากนี้ อีกปัจจัยที่ลืมไม่ได้ที่จะแทรกเข้ามาแย่งคะแนน คือการเข้ามาท้าชิงจากพรรคพลังประชารัฐที่ส่งผู้สมัครครบ 350 เขตทั่วประเทศ ฐานของพรรคพลังประชารัฐที่ จ.บุรีรัมย์ น่าจะอยู่ที่เขต 4 ได้แรงหนุนจากผู้สมัครที่เป็นนายกเทศมนตรีตำบลทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ