วันนี้ (26 มี.ค.2562) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะต้องยึดคะแนนเสียงป๊อปปูล่าโหวตของประชาชนหรือจำนวนที่นั่งของ ส.ส. ว่า ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคที่เกี่ยวข้องไปจัดการ
ผุ้สื่อข่าวถามว่า ขึ้นอยู่กับใครจะรวมเสียงและตั้งรัฐบาลได้ก่อนใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า คิดให้มันมากมันก็เลยสลับซับซ้อน ถ้าคิดให้มันง่ายคือว่าใครจะทำอย่างไรก็ทำไป สุดท้ายมันก็ไปอยู่ที่การเสนอชื่อนายกฯ ต่อสภา เมื่อประธานสภานัด ตรงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ พรรคไหนเสียงมากสุดก็เสนอชื่อก่อนก็แล้วกันจะเอาใครเป็นนายกฯ นอกนั้นก็พูดกันไปต่างคนต่างพูดต่างคนต่างทำ
และเมื่อถามว่าใครรวมเสียงได้ก่อนคนนั้นจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เอาเถอะ ในความเป็นจริงมันไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่สงสัย
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามว่า อยู่ที่ฝีมือของแต่ละพรรคว่าใครสามารถรวบรวมเสียงได้มากที่สุดก่อนกันใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่นั่นแหล่ะอย่างง่ายที่สุด
นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังย้ำถึงหลักการสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลว่าจำเป็นต้องคำนึงถึงเสถียรภาพของรัฐบาล พร้อมปฏิเสธที่คาดการณ์ถึงการจับมือร่วมรัฐบาลของแต่ละพรรคการเมือง แต่ให้รอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ร้อยละ 95 อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเกิดความชัดเจนขึ้น
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวขอบคุณการเลือกตั้งที่เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย และจนถึงเวลานี้ยังไม่ตัดสินใจการเมือง หรือมีใครมาทาบทามให้ร่วมงานรัฐบาลเลือกตั้ง
ส่วนการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ต้องจับตาท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ซึ่งได้เรียกประชุม คสช.ก่อนการประชุม ครม.ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการสั่งการให้ติดตามสถานการณ์ช่วงสงกรานต์แล้ว คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้งด้วย
จับตา "พปชร.-พท." ชิงจัดตั้งรัฐบาล
หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยรายชื่อผู้ได้รับคะแนนสูงสุดรายจังหวัดและรายเขต จำนวน 350 เขต อย่างไม่เป็นทางการ เมื่่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา พรรคการหลายพรรคออกมาแสดงจุดยืนถึงการจัดตั้งรัฐบาล โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ยืนยันจะเดินหน้ารวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล ในฐานะพรรคอันดับ 1 ที่ได้ ส.ส.มากที่สุด โดยจะร่วมกับพรรคที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ และไม่ต้องการให้ ส.ว. 250 คน มากำหนดในการเลือกนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงยืนยันว่า พรรคใดรวบรวมเสียงข้างมากได้ก็สามารถดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้เสียงมากสุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยยึดคะแนนรวมหรือป๊อปปูลาร์โหวตมากที่สุดกว่า 7.9 ล้านคะแนน โดยหลังจากนี้เตรียมหารือพูดคุยกับพรรคการเมืองที่มีระบบและแนวทางสอดรับกับแนวทางของพรรค
ส่วนพรรคตัวแปรอย่างพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ก็ออกมาแถลงความชัดเจน 4 ประเด็น โดยเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาล คือ ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ทั้งฉบับ และปิดสวิตช์ ส.ว.เพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจ และยังยืนยันว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแต่จะไม่เสนอชื่อ เพราะต้องการยืนยันในหลักการ ให้พรรคที่ได้อันดับ 1 เป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาล
ส่วนพรรคภูมิใจไทยซึ่งถือเป็นพรรคตัวแปรสำคัญ โดยมีกระแสข่าวลือว่า อาจมีการเจรจาให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว พร้อมระบุว่า ยังไม่ได้รับการทาบทามให้ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ส่วนเงื่อนไขสำคัญหากจะรับเจรจากับพรรคใด นายอนุทิน ย้ำว่า ต้องเป็นพรรคที่เห็นด้วยกับนโยบายปลดล็อกกัญชาเสรี
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ที่ขณะนี้ยังไม่มีหัวหน้าพรรค และมีกระแสข่าวลือว่าอาจเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทวิตข้อความในทวิตของตัวเอง ระบุว่า "ช่วงนี้ข่าวปล่อย ข่าวลือจะเยอะ อย่าไปให้น้ำหนักกับข่าวมาก ส่วนเรื่องการสนับสนุนเพื่อไทย ขอยืนยันว่า ส่วนตัว ใครจะติดต่อหรือไม่ติดต่ออย่างไรก็ตาม คำตอบคือ "เป็นไปไม่ได้"