เลือกตั้ง 2562 : "ศรีสุวรรณ" จ่อยื่น กกต.สอบ "ธนาธร" รอบ 2 กรณีโอนหุ้น วี-ลัค มีเดีย

การเมือง
3 เม.ย. 62
10:05
1,238
Logo Thai PBS
เลือกตั้ง 2562 : "ศรีสุวรรณ" จ่อยื่น กกต.สอบ "ธนาธร" รอบ 2 กรณีโอนหุ้น วี-ลัค มีเดีย
"ศรีสุวรรณ" เตรียมยื่น กกต.สอบ "ธนาธร" รอบ 2 กรณีโอนหุ้นวี-ลัค มีเดีย ในวันศุกร์นี้ ( 5 เม.ย.62) ด้าน "ธนาธร" ออกแถลงการณ์ ชี้แจงยืนยันมิได้มีพฤติการณ์ “ส่อพิรุธ” และการโอนหุ้นไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ม.ค.62

วันนี้ (3 เม.ย.62) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 2 เม.ย.62 ออกแถลงการณ์ "กรณีข้อสงสัยเรื่องการถือหุ้นของนายตนในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด โดยอ้างว่าตนได้โอนหุ้นดังกล่าวทั้งหมดให้แก่คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยทำเป็นหนังสือตราสารโอนหุ้น ระหว่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้โอน กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้รับโอน ฉบับลงวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 โดยมีพยานลงลายมือชื่อรับรอง 2 คน

พร้อมกันนี้ ผู้โอนและผู้รับโอน กับพยานทั้ง 2 คน ได้ลงลายมือชื่อในตราสารโอนหุ้นดังกล่าวต่อหน้าทนายความผู้ทำคำรับรอง (ทนายความโนตารี) ในวันเดียวกันนี้ คุณสมพรได้ชำระเงินค่าหุ้นให้แก่ผมด้วยเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาถนนบางนา-ตราด (เซ็นทรัลซิตี้) ขีดคร่อมผู้ถือ (A/C PAYEE ONLY) ฉบับลงวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 สั่งจ่าย “นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นเงินจำนวน 6,750,000 บาทแล้วนั้น"

กรณีดังกล่าว ยังไม่อาจเชื่อได้ทั้งหมดว่าจะเป็นแถลงที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ซึ่งเรื่องดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องทำความจริงให้ปรากฏ โดยเฉพาะยังมีข้อพิรุธและข้อสงสัยอีกมากมายที่สมาคมฯจำต้องนำความพร้อมข้อมูลไปร้องเรียนเพิ่มเติมให้ กกต.ไต่สวน สอบสวนและแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม อาทิ ข้ออ้างว่ามีการจ่ายเช็คชำระเงินค่าหุ้นให้คุณธนาธรและภรรยาแล้วนั้น มีการนำเช็คไปขึ้นเงินจริงหรือไม่ ในบัญชีธนาคารของคุณสมพร มีการถ่ายโอนเงินตามเช็คเข้าบัญชีของคุณธนาธรและบัญชีภรรยาจริงหรือไม่ มีสเตทเม้นท์ยืนยันหรือไม่ เพราะการเขียนเช็คนั้นจะเขียนขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ ดังนั้นจึงต้องพิสูจน์นิติกรรมการเคลื่อนไหวทางบัญชีของทั้งสามคนว่าสอดคล้องต้องกันหรือไม่

นอกจากนั้น ยังมีประเด็นที่คุณธนาธรอ้างว่า คุณสมพรได้โอนหุ้นต่อไปให้หลาน 2 คนตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2562 แล้วแต่เหตุใดหลานทั้ง 2 คนจึงโอนหุ้นกลับมาให้คุณสมพรอีกในวันที่ 21 มีนาคม 2562 นิติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ มีการชำระเงินกันจริงหรือไม่ มีสเตทเม้นท์ยืนยันระหว่างคุณสมพรกับหลานหรือไม่ และหลานทั้ง 2 คน มีอำนาจทำนิติกรรมได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงการสร้างพยานหลักฐานขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างแก้ต่างกรณีถูกจับพิรุธในการประชุมกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ว่าเหตุใดยังคงมีกรรมการจำนวน 10 คนมาประชุมกัน

ทั้งนี้ยังมีอีกข้อพิรุธอีกมากมายที่สมาคมฯจำต้องนำความพร้อมข้อมูลหลักฐานไปยื่นร้องต่อ กกต.เพิ่มเติมเพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบ สวนว่าการกระทำดังกล่าวของนายธนาธร เข้าข่ายความผิดตาม ม.98(3) ของรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่ โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2562 เวลา 13.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B เขตหลักสี่ กทม. นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด

 

 

 


ขณะที่ ก่อนหน้านี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหา ดังนี้

กรณีข้อสงสัยเรื่องการถือหุ้นของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด

ตามที่สำนักข่าวอิศราได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับข้อสงสัยเรื่องการถือหุ้นของผมในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด และได้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างแพร่หลายนั้น

ผมขอชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณชนอีกครั้งหนึ่งโดยละเอียด ดังนี้

ข้อ 1. เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2558 ผมได้เข้าถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด จำนวน 675,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้น ตั้งแต่ 1350001 ถึง 2025000 และถือครองหุ้นเรื่อยมาจนกระทั่งเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 ผมได้โอนหุ้นดังกล่าวทั้งหมดให้แก่คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยทำเป็นหนังสือตราสารโอนหุ้น ระหว่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้โอน กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้รับโอน ฉบับลงวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 โดยมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคน พร้อมนี้ ผู้โอนและผู้รับโอน กับพยานทั้ง 2 คน ได้ลงลายมือชื่อในตราสารโอนหุ้นดังกล่าวต่อหน้าทนายความผู้ทำคำรับรอง (ทนายความโนตารี) ในวันเดียวกันนี้ คุณสมพรได้ชำระเงินค่าหุ้นให้แก่ผมด้วยเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาถนนบางนา-ตราด (เซ็นทรัลซิตี้) ขีดคร่อมผู้ถือ (A/C PAYEE ONLY) ฉบับลงวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 สั่งจ่าย “นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นเงินจำนวน 6,750,000 บาท ทั้งนี้ การโอนหุ้นดังกล่าว ได้มีการจดแจ้งการโอนและรับโอนหุ้นลงในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 แล้ว ทั้งนี้ ในวันดังกล่าว ภริยาของผมซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทเดียวกันนี้ ก็ได้โอนหุ้นทั้งหมดให้แก่คุณสมพรเช่นกัน

ฉะนั้น ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด จึงมีผู้ถือหุ้นคงเหลือจำนวน 8 คน

ข้อ 2. จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562 คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โอนหุ้นจำนวน 675,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้น ตั้งแต่ 1350001 ถึง 2025000 ให้แก่คุณเอ (หลานชายคนที่ 1) โดยทำเป็นหนังสือตราสารโอนหุ้น ระหว่างนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้โอน กับคุณเอ ฉบับลงวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562 โดยมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคน พร้อมนี้ ผู้โอนและผู้รับโอน กับพยานทั้งสองคน ได้ลงลายมือชื่อในตราสารโอนหุ้นดังกล่าวต่อหน้าทนายความผู้ทำคำรับรอง (ทนายความโนตารี) และในวันเดียวกันนี้ (วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562) คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โอนหุ้นจำนวน 225,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้น ตั้งแต่ 3150001 ถึง 3375000 ให้แก่คุณบี (หลายชายคนที่ 2) โดยทำเป็นหนังสือตราสารโอนหุ้น ระหว่างนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้โอน กับคุณบี ผู้รับโอน ฉบับลงวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562 โดยมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคน พร้อมนี้ ผู้โอนและผู้รับโอน กับพยานทั้ง 2 คน ได้ลงลายมือชื่อในตราสารโอนหุ้นดังกล่าวต่อหน้าทนายความผู้ทำคำรับรอง (ทนายความโนตารี)

โดยการโอนหุ้นทั้ง 2 กรณี ได้มีการจดแจ้งการโอนและรับโอนหุ้นลงในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562 แล้ว ฉะนั้น ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562 บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด จึงมีผู้ถือหุ้นคงเหลือจำนวน 10 คน

ข้อ 3. เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562 บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ได้ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด มีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุม 4 คนและมีผู้รับมอบฉันทะซึ่งรับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้นซึ่งมิได้เข้าร่วมประชุมด้วยตนเองทั้ง 6 คน เข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 รวมมีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 10 คน ในการประชุมวิสามัญดังกล่าว มีวาระหนึ่งเกี่ยวกับการลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท ของภริยาของผม ตามหนังสือลาออกฉบับลงวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562 อีกวาระหนึ่งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของบริษัทแจ้งให้ที่ประชุมทราบ และอีกวาระหนึ่ง เกี่ยวกับการมีมติเลิกบริษัท

ตามที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562 ผมได้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ด้วยหรือไม่นั้น ดังที่ผมได้เคยชี้แจงต่อสื่อมวลชนไว้แล้วว่า การที่ผมจะไปเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562 ด้วย ย่อมไม่อาจจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจาก (1) ผมมิได้เป็นผู้ถือหุ้นตั้งแต่ได้โอนหุ้นให้แก่คุณสมพรฯ เมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 แล้ว (2) ในวันดังกล่าว ผมติดภารกิจการหาเสียงที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดกระบี่ทั้งวัน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวโดยทั่วไป

ข้อ 4.เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2562 บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ได้ดำเนินการแจ้งการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัท โดยอ้างตามรายงานการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ฉบับลงวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562 และระบุจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น 10 คน

ข้อ 5.ต่อมา เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 คุณเอ (หลานชายคนที่ 1) และคุณบี (หลานชายคนที่ 2) ได้โอนหุ้นจำนวน 675,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้น ตั้งแต่ 1350001 ถึง 2025000 และโอนหุ้นจำนวน 225,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้น ตั้งแต่ 3150001 ถึง 3375000 ให้แก่คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ตามลำดับ โดยทำเป็นหนังสือตราสารโอนหุ้น ฉบับลงวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 โดยมีพยานลงลายมือชื่อรับรอง 2 คน พร้อมนี้ ผู้โอนและผู้รับโอน กับพยานทั้ง 2 คน ได้ลงลายมือชื่อในตราสารโอนหุ้นดังกล่าวต่อหน้าทนายความผู้ทำคำรับรอง (ทนายความโนตารี) ทั้งนี้ การโอนหุ้นดังกล่าว ได้มีการจดแจ้งการโอนและรับโอนหุ้นลงในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 แล้ว

นอกจากนี้ วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 ผู้ถือหุ้นอีก 3 ราย ก็ได้โอนหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ให้แก่คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยทำเป็นหนังสือตราสารโอนหุ้นโดยมีพยานลงลายมือชื่อรับรอง 2 คน พร้อมนี้ ผู้โอนทั้ง 3 คนและผู้รับโอน กับพยานทั้ง 2 คน ได้ลงลายมือชื่อในตราสารโอนหุ้นดังกล่าวต่อหน้าทนายความผู้ทำคำรับรอง (ทนายความโนตารี) ทั้งนี้ การโอนหุ้นดังกล่าว ได้มีการจดแจ้งการโอนและรับโอนหุ้นลงในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 แล้วเช่นเดียวกัน

ข้อ 6.ในวันเดียวกันนี้ (วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562) บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ได้นำส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทตามแบบ บอจ.5 ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุจำนวนผู้ถือทั้งหมดของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ทั้งสิ้น 5 คน ซึ่งคุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือหุ้นของบริษัทตามรายการดังนี้

(1) หุ้นจำนวน 675,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้น ตั้งแต่ 0000001 ถึง 0675000 ลงวันที่ 8 มกราคม 2551 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น คือ วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2558 (ซึ่งเป็นหุ้นที่คุณสมพรฯ ถือครองอยู่เดิม)

(2) หุ้นจำนวน 675,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้น ตั้งแต่ 1350001 ถึง 2025000 ลงวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น คือ วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562

(3) หุ้นจำนวน 225,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้น ตั้งแต่ 2925001 ถึง 3150000 ลงวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น คือ วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562

(4) หุ้นจำนวน 225,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้น ตั้งแต่ 3625001 ถึง 3670000, ตั้งแต่ 4075001 ถึง 4120000 และตั้งแต่ 4187501 ถึง 4232500 ลงวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น คือวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562

(5) หุ้นจำนวน 225,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้น ตั้งแต่ 5175001 ถึง 5220000, ตั้งแต่ 5445001 ถึง 5490000 และตั้งแต่ 5220001 ถึง 5445000 ลงวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น คือวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562

(6) หุ้นจำนวน 225,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้น ตั้งแต่ 3150001 ถึง 3375000 ลงวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น คือวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562

จึงเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตรงกับสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ทุกประการ

ด้วยลำดับเหตุการณ์ดังที่ผมได้อธิบายข้างต้นนี้ จะเห็นได้ว่า ข้อเท็จจริงทั้งปวงล้วนสอดคล้องต้องกันทุกประการ มิได้มีพฤติการณ์ “ส่อพิรุธ” ดังที่สื่อมวลชนบางฉบับ พยายามชี้นำว่า การโอนหุ้นดังกล่าวของผมมิได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 แต่อย่างใด

ดังที่ได้อธิบายมาข้างต้นนี้ คือ ข้อเท็จจริงโดยละเอียดเกี่ยวกับการเป็นผู้ถือหุ้นของผมในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด วิญญูชนผู้มีใจเป็นธรรมปราศจากอคติย่อมสามารถเข้าใจความเป็นมาเป็นไปของเรื่องนี้ได้อย่างกระจ่างชัด

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2562

ข่าวที่เกี่ยวข้อง