คาด "โจโควี" นั่งเก้าอี้ผู้นำอินโดนีเซีย สมัย 2

ต่างประเทศ
17 เม.ย. 62
20:21
512
Logo Thai PBS
คาด "โจโควี" นั่งเก้าอี้ผู้นำอินโดนีเซีย สมัย 2
ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ประธานาธิบดีโจโค วีโดโด มีคะแนนนำอยู่ที่ร้อยละ 54.2 ส่วนพล.ท.ปราโบโว ซูเบียนโต มีคะแนนตามมาร้อยละ 45.8 ซึ่งไม่ต่างจากผลสำรวจหลายสำนัก โดยพรุ่งนี้(18 เม.ย.) อาจมีบางจังหวัดต้องจัดเลือกตั้งใหม่เหตุบัตรเลือกตั้งส่งไปไม่ถึง

วันนี้( 17 เม.ย.2562) แม้ว่าจะมีบางพื้นที่อย่างจังหวัดปาปัวที่ต้องจัดการเลือกตั้งอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (18 เม.ย.) เนื่องจากบัตรเลือกตั้งส่งไปไม่ถึง โดยผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พบว่า ประธานาธิบดีโจโค วีโดโด มีคะแนนนำอยู่ที่ร้อยละ 54.2 ส่วนพล.ท.ปราโบโว ซูเบียนโต มีคะแนนตามมาร้อยละ 45.8 ซึ่งไม่ต่างจากผลสำรวจหลายสำนัก เมื่อเดือนที่ผ่านมา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ชาวอินโดนีเซีย 193 ล้านคน ลงคะแนนเลือกผู้นำคนใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ฐานเสียงของโจโควี บางส่วนจะรู้สึกผิดหวังที่ผู้นำอินโดนีเซียเลือกมารุฟ อามิน ประธานสภาอูลามะแห่งอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางศาสนาอิสลามในอินโดนีเซีย มาเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี

 

เนื่องจากมารุฟ อามิน มีทัศนคติทางลบต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBT รวมไปถึงชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีน เนื่องจากมารุฟเคยเป็นแกนนำ ในการเดินขบวนต่อต้านบาซูกีร์ จะห์ยา ปูร์นามา หรือ อาฮก อดีตผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ซึ่งมีเชื้อสายจีนที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม ดาวรุ่งพุ่งแรงในสายตาคนรุ่นใหม่ ในข้อหาดูหมิ่นศาสนาอิสลาม เมื่อ 2 ปีที่แล้ว จนต้องถูกจำคุกในที่สุด

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจะชี้ชัดว่า โจโควีได้คะแนนนำ สร้างความยินดีให้กลุ่มผู้สนับสนุนที่ชื่นชอบภาพลักษณ์เข้าถึงง่าย-ติดดิน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 17 เม.ย.นี้ ชี้ชะตาเลือกผู้นำอินโดนีเซียคนใหม่

แต่ความท้าทายของโจโควีในอีก 5 ปีต่อจากนี้นัยสำคัญของการได้คะแนนนิยมให้กลับมาบริหารประ เทศต่อเป็นสมัยที่ 2 ถือเป็นพัฒนาการอีกก้าวหนึ่งของกระบวนการประชาธิปไตยของอินโดนีเซีย หลังการต่อสู้ของขบวนการนักศึกษา เมื่อปี 2540-2541

 

ขณะที่กระแสอิสลามสายอนุรักษ์นิยมในอินโดนีเซีย มีแนวโน้มจะขยายตัวมากขึ้น ถือเป็นความท้าทายสำคัญของประธานาธิบดีโจโควี หลังจากผู้นำอินโดนีเซียตกเป็นเป้าโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามในข้อหาไม่เคร่งศาสนาอิสลามมาโดยตลอด จนต้องแก้เกมด้วยการส่งเทียบเชิญมารุฟ อามิน มาลงชิงชัยร่วมกันในตำแหน่งรองประธานาธิบดีในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อหวังลดกระแสต่อต้านและเก็บเกี่ยวคะแนนเสียงจากกลุ่มมุสลิมที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมไปด้วยพร้อมๆ กัน

ประเด็นนี้หากมองในแง่เกมการชิงอำนาจทางการเมืองแล้ว ย่อมถือเป็นการวางหมากแก้เกม เพื่อเอาชนะคู่แข่งแต่หากมองในระยะยาวจากนี้ไปอีก 5 ปี ตลอดระยะเวลาดำรงตำแหน่ง สมัยที่ 2 ประเด็นนี้ ก็อาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การสร้างเอกภาพ ลดความขัดแย้งในสังคมอินโดนีเซีย ตามคำมั่นที่โจโควี เคยหาเสียงเอาไว้ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ดำเนินไปอย่างยากลำบากหรืออาจจะทำไม่ได้เลย เพราะคงขยับตัวไม่ง่ายนัก นี่จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่โจโควีจะต้องแก้และรักษาสมดุลเอาไว้ให้ดี

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง