กรมอุทยานฯ เร่งฟื้นฟูป่าทับลานหลังคดีบุกรุกสิ้นสุด

สิ่งแวดล้อม
17 มิ.ย. 58
05:14
381
Logo Thai PBS
กรมอุทยานฯ เร่งฟื้นฟูป่าทับลานหลังคดีบุกรุกสิ้นสุด

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เร่งปลูกป่าฟื้นฟูผืนป่าทับลาน หลังคดีบุกรุกพื้นที่ป่าทับลานทำรีสอร์ทสิ้นสุด ขณะที่คณะกรรมการมรดกโลกและเจ้าหน้าที่สมาพันธ์อนุรักษ์โลก (IUCN) ขอให้ไทยเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว เพราะมีความเสี่ยงจะถูกขึ้นบัญชีภาวะอันตราย

วันนี้ (17 มิ.ย.2558) นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่าภายหลังคดีการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานของนายทุนเพื่อสร้างเป็นรีสอร์ทสิ้นสุดแล้ว เช่น คดีบ้านผางามรีสอร์ทที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติตั้งแต่ปี 2543-2557 โดยทางผู้ประกอบการบ้านพักงามรีสอร์ทยินดีหรือถอนสิ่งปลูกสร้างจากพื้นที่ด้วยตัวเองจนแล้วเสร็จเมื่อต้นปี 2558 มาตรการเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการคือการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่า หลังคณะกรรมการมรดกโลกได้ขอให้ประเทศไทยแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าทำรีสอร์ทในเขตมรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามผืนป่ามรดกโลกและเป็นประเด็นที่ประเทศไทยยังเสี่ยงต่อการถูกขึ้นทะเบียนภาวะอันตราย

ด้านนายวิโรจน์ โรจนจินดา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ระบุว่าได้ดำเนินการตามเป้าหมายยึดคืนพื้นที่จากนายทุนกว่า 451 คดี ขณะนี้มีการรื้อถอนไปแล้ว 84 คดี อยู่ระหว่างการรื้อถอน 23 คดี ยังไม่ได้ดำเนินการรื้อถอน 69 คดี และอยู่ระหว่างชั้นพนักงานสอบสวนอีก 275 คดี

ส่วนแผนการดำเนินงานต่อจากนี้จะร่วมกับทุกภาคส่วนปลูกป่าเพื่อฟื้นคืนสภาพป่า โดยปลูกในพื้นที่ที่ยึดคืนจากนายทุนที่สร้างรีสอร์ทบ้านผางามรีสอร์ทจำนวน 126 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องแห่งแรกที่กรมอุทยานร่วมกับภาคประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน นอกจากนี้ยังมีอีก 8 พื้นที่ที่ดำเนินคดีสิ้นสุดแล้วและจะมีการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าอีก 8 แห่ง หลังการจากรื้อถอนแล้วรวมพื้นที่กว่า 100 ไร่

ขณะที่นายครรชิต ศรีนวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  เปิดเผยว่าการบริหารจัดการพื้นที่ป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ซึ่งยังอยู่ในความเสี่ยงต่อการถูกขึ้นบัญชีภาวะอันตรายนั้น ทุกหน่วยงานมีความเข้มงวดในการทำงานบูรณาการรวมกันเพื่อป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ เนื่องจากยังมีขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงอย่างต่อเนื่องตามตะเขบรอยต่อระหว่างป่าเขาใหญ่กับป่าทับลาน อีกทั้งพบว่ายังมีความพยายามจะเข้ามาล่าสัตว์ป่า โดยมีการตรวจพบปืนและสะเบียงอาหาร ซึ่งคาดว่าเป็นการเข้ามาหาผลประโยชน์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนผืนป่าตามแนวตะเขบรอยต่อป่า เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นที่คณะกรรมมรดกโลกมีความกังวลและให้ไทยเร่งแก้ปัญหา


ข่าวที่เกี่ยวข้อง