เลือกตั้ง 2562 : ชี้ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง "ธนาธร" หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้

การเมือง
23 พ.ค. 62
11:28
1,887
Logo Thai PBS
เลือกตั้ง 2562 : ชี้ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง "ธนาธร" หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้
"ปิยบุตร" ชี้ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง "ธนาธร" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หยุดทำหน้าที่ไม่ได้ เทียบมาตรฐานคดีนายดอน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนปมเงินกู้ 110 ล้านบาทสามารถทำได้ ไม่มีกฎหมายห้าม ระบุหลายพรรค กู้เงินใช้แต่ไม่เคยถูกตรวจสอบ

วานนี้(22 พ.ค.2562)  นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณีกระแสข่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจจะมีการพิจารณารับคำร้องของคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ในคดีหุ้นวี-ลัคมีเดีย ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และกรณีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการที่พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินของนายธนาธรมา 110 ล้านบาท

นายปิยบุตร กล่าวว่า ในกรณีของหุ้นวี-ลัคมีเดีย มีเรื่องที่ต้องพิจารณาโดยเปรียบเทียบกัน กล่าวคือในกรณีของนายธนาธรมีการยื่นเรื่องต่อ กกต.ในวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นจึงมีการรับคำร้องในวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา และตามมาด้วยการส่งหนังสือให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธรมาชี้แจงต่อ กกต.ในวันที่ 22 เม.ย. เวลา 10.00 น. แต่หนังสือมาถึงบ้านในเวลา 13.00 น. จึงเป็นไปไม่ได้ที่นางสมพร จะไปชี้แจง และวันที่ 23 เม.ย. ทาง กกต.มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายธนาธรทันที หลังจากนั้นได้ให้นายธนาธรเข้าชี้แจงกับอนุกรรมการไต่สวนในวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมเวลาทั้งสิ้น 53 วัน

 

เทียบคดีหุ้นของ "ดอน"เวลาต่างกัน

ทั้งนี้ เมื่อเทียบเคียงกับกรณีที่มีข้อเท็จจริงใกล้เคียงกัน คือกรณีของนายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีข้อกล่าวหาว่าภรรยาอาจถือหุ้นสื่ออยู่ มีการยื่นเรื่องต่อ กกต.ในวันที่ 1 พ.ค. 2560 โดย กกต.มีมติยื่นคำร้องในวันที่ 25 พ.ค.2561 ทำการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 21 มิ.ย.2561 ศาลรับคำร้องในวันที่ 22 มิ.ย.2561 รวมใช้เวลาทั้งสิ้น 417 วัน

นายปิยบุตร กล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างทั้งสองคดี ที่น่าสังเกตว่าอาจเข้าข่ายเป็นการใช้ดุลยพินิจของ กกต.อย่างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ กกต.ยังไม่เคยเปิดโอกาสให้นายธนาธร เข้าชี้แจง แม้แต่ครั้งเดียว เว้นแต่ในวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่มีการเชิญไปชี้แจง ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบว่าในสำนวนแจ้งข้อกล่าวหามีเพียงข้อความ 6 บรรทัด ที่อ้างอิงถึงเอกสาร บอจ.5 แล้วฟันธงลงไปทันทีว่านายธนาธรผิด โดยไม่มีการนำข้อมูลของผู้ถูกร้องมาพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเอกสารคำให้การที่นายธนาธรส่งไปหลายลัง ก็มีการใช้เวลาพิจารณาเพียง 16 วันเท่านั้น 

นายปิยบุตร กล่าวย้ำว่า การตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าให้ทำได้จนถึง 1 วันก่อนการเลือกตั้งเท่านั้น แต่เมื่อ กกต.ตัดสินใจจะทำทั้งๆที่ตัวเองไม่มีอำนาจ จึงเกิดเป็นเรื่องเป็นราวเช่นนี้ขึ้นมา

ส่วนขั้นตอนในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมายกระบวนพิจารณาความของศาลรัฐธรรม นูญแล้ว จะต้องมีการตั้งองค์คณะชุดเล็กขึ้นมา เพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องหรือไม่ หากมีมติไม่รับคำร้อง ก็ต้องส่งให้คณะใหญ่เป็นผู้พิจารณา แต่หากมีมติรับคำร้อง ก็ต้องให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง ซึ่งตามกำหนดเวลาสามารถทำได้จนถึงวันที่ 8 มิ.ย.นี้

ชี้ศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถสั่ง "ธนาธร"หยุดปฏิบัติหน้าที่

ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจมีคำสั่งให้นายธนาธร หยุดการปฏิบัติหน้าที่ได้นั้น เมื่อเอากรณีของนายดอน มาเทียบกัน ศาลได้ให้เวลานายดอนชี้แจงถึงหนึ่งเดือนก่อนที่จะพิจารณา และผลการพิจารณาก็ออกมาว่านายดอน ไม่ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่มีเหตุว่าจะเกิดความเสียหายต่อส่วนรวมหรือการบริหารราชการแผ่นดิน เป็นบรรทัดฐานว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถสั่งให้นายธนาธร หยุดปฏิบัติหน้าที่ในทันทีที่มีการรับคำร้องได้ แต่ต้องให้เวลาในการชี้แจงก่อน นอกจากนี้นายธนาธรแม้ว่าจะเป็น ส.ส.แล้ว แต่ยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากยังไม่ได้ทำการปฏิญาณตนตามที่กำหนดในกฎหมาย การสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้

ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกันเท่าเทียมกัน ไม่มีทางที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะสั่งให้นายธนาธร ยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวได้ และพรรค มีความมั่นใจว่าหากศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องขึ้นมา นายธนาธร ก็จะไม่ถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ และพร้อมที่จะสู้ในกระบวนการศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

และหากบ้านนี้เมืองนี้จะมีปาฏิหารย์ ทางกฎหมายสั่งให้นายธนาธร หยุดการปฏิบัติหน้าที่ขึ้นจริง เราขอยืนยันว่านายธนาธร ยังคงเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และเราขอสงวนสิทธิที่จะทำให้ปาฏิหารย์ทางกฎหมายถูกใช้ไปในมาตรฐานเดียวกัน ด้วยการยื่นให้มีการตรวจสอบ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ทุกคนที่มีกรณีแบบเดียวกัน

แจงถี่ยิบพรรคยืมเงิน ไม่ผิดกฎหมาย

นายปิยบุตร กล่าวว่า ส่วนกรณีพรรคอนาคตใหม่ กู้เงินของนายธนาธร 110 ล้านบาทนั้น ต้องย้อนกลับไปในวันที่ตั้งพรรคขึ้นมา พรรคไม่สามารถรับบริจาคได้ เนื่องจากยังติดคำสั่ง คสช. รวมทั้งช่องทางทางกฎหมายที่เปิดโอกาสให้กรรมการบริหารพรรคบริจาคได้คนละ 10 ล้านบาท ทางกรรมการบริหารพรรคแต่ละคนก็ไม่ได้มีฐานะขนาดนั้น จะให้นายธนาธร นำเงินมาให้คณะกรรมการบริหารพรรคบริจาคก็เป็นการไม่โปร่งใส จึงต้องกู้เงิน

ในทางสากลการกู้เงินของพรรคการเมืองเป็นเรื่องปกติ หลายพรรคการเมืองทั่วโลกเป็นหนี้ธนาคาร บางพรรคก็เป็นหนี้รายย่อย ทั้งกฎหมายในไทยก็ไม่มีระบุว่าการกู้ยืมเงินเป็นความผิดตามกฎหมาย ตามหลักการทางกฎหมายแล้ว อะไรที่กฎหมายไม่ได้ห้าม และหลักการทางบัญชี เงินกู้มีสถานะเป็นหนี้สิน ไม่ใช่รายได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายปิยบุตร ได้เปิดข้อมูลงบการเงินที่ลงนามรับรองโดยประธาน กกต. ที่เก็บเอาไว้ในห้องสมุด กกต.เอง พบว่ามีพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาธิปไตยใหม่ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีประวัติการกู้เงินในบัญชีการเงิน หลายกรณีก็ไม่ได้ระบุว่ากู้เงินจากใคร

 

พรรคการเมืองที่พยายามจะทำให้ทุกอย่างโปร่งใส มีที่มาว่าเอาเงินมาจากไหนในการใช้จ่ายของพรรคถูกไล่บี้ไล่ตรวจสอบจะเป็นจะตาย แต่พรรคการเมืองอื่นๆ กลับไม่เคยถูกตรวจสอบเลยว่าเอาเงินมาจากไหน ตกลงประเทศนี้อยากให้ทุกอย่างไม่โปร่งใส สนับสนุนจะให้ใช้เงินจากช่องทางลับ มีกระเป๋าเงินซุกเอาไว้ที่นั่นที่นี่อย่างนั้นหรือ ถ้านายธนาธร อยากครอบงำพรรค นายธนาธรจะทำสัญญาเงินกู้ให้ถูกไล่บี้ตรวจสอบทำไม สู้เอาเงินมาให้กรรมการบริหารคนละ 10 ล้านแล้วบริจาคเข้าพรรคเลยไม่ง่ายกว่าหรือ แต่นี่เราต้องการสร้างมาตรฐานการเมืองใหม่ ให้ทุกอย่างโปร่งใส นายธนาธรจึงทำสัญญาขึ้นมา มีกำหนดชัดเจนที่จะให้ใช้เงินภายใน 3 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง