ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ภายหลังการจับกุมและตรวจยึดกัญชาแห้งอัดแท่ง น้ำหนักรวมเกือบ 300 กิโลกรัม ได้ในพื้นที่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านเวินพระบาทตำบลเวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา
ท่ามกลางข้อถกเถียงในประเทศไทย เรื่องการใช้กัญชาทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม กำลังเผชิญปัญหาการลักลอบนำเข้ากัญชาแห้งอัดแท่งจากประเทศเพื่อนบ้านพบว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา สถิติการจับกุมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปีนี้คาดว่าจะมีการลักลอบนำเข้ากัญชาผ่านทางจังหวัดนครพนมไม่น้อยกว่า 15 ตัน
นอกจากนี้ กัญชาแห้งอัดแท่งจำนวนกว่า 4 ตัน ถูกเก็บรักษาไว้ภายในห้องเก็บของกลาง สถานีตำรวจภูธรท่าอุเทน จังหวัดนครพนมของกลางทั้งหมดตรวจยึดไว้เพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
พ.ต.ต.ธีรยุทธ เจริญทัศน์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดนครพนม กล่าวว่า จากที่ทำงานตรวจพิสูจน์ และสุ่มตัวอย่างมา ตัวกระดาษฟอยล์สีทอง จะพบว่าตัวเนื้อกัญชามีความชื้นน้อยกว่าที่ห่อฟอยล์สีเงินหรือห่อพลาสติก
ยิ่งปราบยิ่งมาก 5 เดือนทะลักไทยกว่า 4 ตัน
ตลอดแนวแม่น้ำโขงระยะทาง 174 กิโลเมตรที่จังหวัดนครพนม อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง หรือ นรข.เขตนครพนม ซึ่งเป็นอีกหน่วยงานที่ทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการลำเลียงยาเสพติดข้ามแม่น้ำโขงมายังประเทศไทย
น.อ.อภิชาติแก้วดวงเทียน ผบ.นรข.เขตนครพนม บอกว่า ปัจจุบันในพื้นที่ยังมีปัญหายาเสพติดแม้หลายหน่วยงานได้บูรณาการร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและสกัดกั้นแต่ยังมี อุปสรรคที่ทำให้การปราบปรามไม่ได้ผลเท่าที่ควร
การตรวจจับและยึดของกลางได้ทีละหลายร้อยกิโลกรัม บริเวณริมแม่น้ำโขง แถวพื้นที่ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งพบว่าผู้ลักลอบจะมีความพยายามในการนำกัญชาเข้าในพื้นที่ชั้นใน
จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ปริมาณกัญชาที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ในพื้นที่ จ.นครพนมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 ยึดของกลางได้กว่า 2 ตัน และเพิ่มขึ้นเป็น 8 ตันในปี 2561 ขณะที่ในปีนี้ เพียง 5 เดือนเจ้าหน้าที่ยึดกัญชาที่ถูกลักลอบนำเข้ามาได้แล้วกว่า 4 ตัน