วันนี้( 6 มิ.ย.2562) นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ มีแนวคิดจะจัดทำโครงการโรงพยาบาลธงฟ้า โดยจะเชิญชวนโรงพยาบาลเอกชน ที่คิดค่ายา และค่ารักษาพยาบาลไม่แพงจนเกินไป ให้เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้เป็นทางเลือกของประชาชน
เพราะปัจจุบันยังมีโรงพยาบาลเอกชนกว่า 100 แห่ง หรือประมาณ ร้อยละ 30-40 ของโรงพยาบาลเอกชนทั้งหมด คิดค่ายา และค่ารักษาไม่แพงมากนัก เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลเอกชนด้วยกัน
การจัดทำโครงการดังกล่าวน่าจะเป็นรูปธรรม หลังกรมการค้าภายใน ได้ข้อมูลราคาซื้อและขายยา เวช ภัณฑ์ บริการทางการแพทย์ จากโรงพยาบาลเอกชนครบถ้วนทุกราย โดยโรงพยาบาลต้องแจ้งราคามาที่กรมฯ ภายใน 45 วัน หรือครบกำหนด 12 ก.ค.2562
นายวิชัย ระบุว่า การเเจ้งข้อมูลจะครอบคลุมยาประมาณ 3,992 รายการ ซึ่งกรมการค้าภายใน จะทำข้อมูลเป็นคิวอาร์โค้ด เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ หากโรงพยาบาลจะเปลี่ยนแปลงราคา ต้องแจ้งกรมฯ ก่อน อย่างน้อย 15 วัน
กรณีผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลต้องวินิจฉัยก่อนว่าผู้เข้ารับการรักษา ป่วยเป็นอะไร และประเมินค่ารักษาพยาบาล พร้อมออกใบสั่งยาที่ต้องมีรายละเอียดแต่ละรายการ ที่ต้องมีราคาต่อหน่วยด้วย
ผู้ป่วยทุกรายที่เป็นผู้ป่วยนอก จะขอหรือไม่ขอใบสั่งยา โรงพยาบาลต้องออกและเป็นข้อบังคับที่โรงพยาบาลต้องปฏิบัติ เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องให้ผู้ป่วยมีทางลือกว่าจะสามารถซื้อยาจากที่ไหน ถ้าได้ใบสั่งยาแล้วไปหาซื้อยาจากร้านข้างนอกได้
เรียกสอบโรงพยาบาลค่ายาเกินจริง
นอกจากนี้ตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.นี้ จะเชิญโรงพยาบาลเอกชนประมาณ 70 รายที่คิดค่ายา ค่ารักษาพยาบาลสูงเกินจริงมาสอบถามข้อเท็จจริงและสาเหตุ เพราะจากการวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนราคายา เวชภัณฑ์ บริการทางการแพทย์ ที่โรงพยาบาลส่งมาให้กรมในช่วงก่อนหน้านี้ พบว่ายาบางชนิดของโรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง มีส่วนต่างของราคาซื้อและขายสูงถึง ร้อยละ 29.33 - 8,766.79 และมีกำไรตั้งแต่ ร้อยละ 47.73 -16,566.67
เช่นยารักษาโรคมะเร็งบางชนิด มีต้นทุนนำเข้า 140,000 บาท แต่คิดราคาจากผู้ป่วยถึง 400,000 บาท เป็นต้น หากโรงพยาบาลชี้แจงเหตุผลไม่ได้ จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชง กกร.เคาะมาตรการคุมค่ารักษา 10 พ.ค.นี้
วันแรก! กกร.ประกาศคุม รพ.เอกชน โขกค่ายา-รักษาแพงเกินจริง