พบหลักฐาน "ไม้เบสบอล" ทำร้ายเด็กกวดวิชาเสียชีวิต

อาชญากรรม
20 มิ.ย. 62
12:47
6,631
Logo Thai PBS
พบหลักฐาน "ไม้เบสบอล" ทำร้ายเด็กกวดวิชาเสียชีวิต
ตำรวจเจอหลักฐานไม้เบสบอลที่มีถุงแปะชื่อของ นายณัฐพล ถาวรพิบูลย์ เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาบ้านครูณัฐ ทำร้ายเด็กวัย 14 ปีเสียชีวิต ขณะที่ จ.นครสวรรค์ ล้อมคอก หลังเจอโรงเรียนกวดวิชาการเถื่อน ห่วงซ้ำรอยทำร้ายเด็กนักเรียน เนื่องจากไม่มีระบบตรวจสอบ

กรณีตำรวจนำหมายศาลเข้าจับนายณัฐพล ถาวรพิบูลย์ เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาเตรียมทหาร "กวดวิชาบ้านพี่ณัฐ" จ.นครสวรรค์ หลังศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ให้การว่ามีการทำร้าย ด.ช.ฐปกร ทรัพย์สิน "น้องชายแดน" วัย 14 ปีที่เข้าไปเรียนกวดวิชาจนเสียชีวิตเมื่อ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา

วันนี้ (20 มิ.ย.) พ.ต.อ.สุทธินันทร์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ประชุมเพื่อนำพยานหลักฐานมาสรุปประกอบสำนวน โดยนำไม้เบสบอลที่พบในแม่น้ำปิง บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำปิง พื้นที่ ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มาตรวจสอบ

ขณะนี้ทางทีมเจ้าหน้าที่ค้นหาพบเจอไม้เบสบอลแล้ว จำนวน 4 อัน ส่งตรวจพิสูจน์ ซึ่งพนักงานสอบสวนนำมาประกอบสำนวน น่าจะเป็นหลักฐานสำคัญในคดีนี้ด้วย เนื่องจากมีป้ายสติ๊กเกอร์แปะติดอยู่กับถุง ระบุชื่อ “นายณัฐพล ถาวรพิบูลย์”  

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง บุกจับเจ้าของ “กวดวิชาบ้านพี่ณัฐ” ทำร้ายเด็ก 14 ปีเสียชีวิต

โดยก่อนหน้านี้ มีจากการสอบปากคำเด็กที่เรียนอยู่ในโรงเรียนกวดวิชาเดียวกัน ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันหลายคน ยืนยันว่า นายณัฐพล มีส่วนร่วมกับลูกศิษย์อีก 4 คน ในการทำร้ายน้องชายแดนจนเสียชีวิต ทำให้ตำรวจต้องขอศาลเพื่อออกหมายจับ

มีรายงานว่ากลุ่มนักเรียนที่ทำร้ายน้องชายแดน ได้เปิดเผยกับชุดสืบสวนว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์รุมทำร้ายร่างกายน้องชายแดน ได้นำไม้เบสบอล ซึ่งมีทั้งหมด 8 อันโยนทิ้งริมแม่น้ำปิง 

นครสวรรค์ ล้อมคอกโรงเรียนกวดวิชา 

หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ทางจังหวัดนครสวรรค์คุมเข้ม และวางมาตรการโรงเรียนกวดวิชาผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องซ้ำรอย เหมือนกรณีโรงเรียนกวดวิชาที่เจ้าของตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายนักเรียนอายุ 14 ปี เสียชีวิต

นายอรรถพร สีหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือ เพื่อวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ เหมือนกรณีโรงเรียนกวดวิชาเตรียมทหารบ้านพี่นัฐ ที่เจ้าของโรงเรียนร่วมกับคนในครอบครัวทำร้ายเด็กชายอายุ 14 ปีเสียชีวิต 

กลุ่มโรงเรียนเอกชนนอกระบบในจังหวัดนครสวรรค์ ชี้แจงว่าโรงเรียนกวดวิชาดังกล่าว ไม่ได้ขอจดทะเบียนจัดตั้งโรงเรียนกับกระทรวงศึกษาธิการ จึงไม่มีระบบประกันคุณภาพการตรวจนิเทศจากศึกษาธิ การจังหวัดแต่อย่างใดขณะนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจแล้ว

ข้อมูลเบื้องต้นจากการสำรวจ ขณะนี้พบว่าใน จ.นครสวรรค์ มีหลายแห่งที่เปิดสอนกวดวิชา ภาษาต่างประเทศ ดนตรี และศิลปะโดยเก็บค่าเรียนโดยไม่ได้ขออนุญาต จึงขอแนะนำให้โรงเรียนหรือสถาบันเหล่านั้น รีบติดต่อสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนให้ถูกต้อง

ส่วนบทลงโทษโรงเรียนเถื่อนมีทั้งโทษจำคุกและปรับหากผู้เปิดโรงเรียนเถื่อนเป็นข้าราชการด้วยก็จะมีโทษทางวินัย ส่วนเป็นข้าราชการครูก็จะมีผลถึงใบประกอบวิชาชีพครูอีกด้วย 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผลชันสูตร "ตับอ่อนเสียหาย" ด.ช.14 ปี เสียชีวิตที่กวดวิชา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง