วันนี้ (26 มิ.ย.2562) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า วันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก ซึ่งยาเสพติดเป็นปัญหาหลักที่ประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญ อีกทั้งการแพร่ระบาดและทวีความรุนแรงขึ้น โดยผู้ติดสารเสพติดจะมีความสัมพันธ์กับการเกิดอาการทางจิต มีภาวะหวาดระแวง ได้แก่ อาการหลงผิด ประสาทหลอน นำไปสู่พฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรง ทำร้ายตนเอง ทำร้ายบุคคลใกล้ชิด
ผู้ป่วยจิตเวชรุนแรงจากยาเสพติดเพิ่ม 3.92%
สถานการณ์ผู้ใช้สารเสพติดของประเทศไทย พบว่ามีผู้ใช้สารเสพติดชนิดใดชนิดหนึ่งใน 1 ปี มีจำนวน 1.4 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ใช้สารเสพติด 1.1 ล้านคน และเป็นผู้ติดสารเสพติด 3.2 แสนคน ในจำนวนนี้เข้าสู่ระบบการบำบัดของกรมสุขภาพจิต 24,196 คน เป็นผู้ป่วยจิตเวชติดสารเสพติดรุนแรง 5,757 คน และเป็นผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดที่เสี่ยงต่อการก่อความรุนแรง 577 คน
นอกจากนี้ ยังพบสถิติผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชก่อเหตุรุนแรงในสังคม เฉลี่ยเพิ่มมากขึ้น 3.92 เท่า ในปี 2561 โดยผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชก่อเหตุรุนแรง 267 คน แบ่งเป็นชาย 259 คน และเป็นหญิง 7 คน สำหรับลักษณะของการก่อความรุนแรงในสังคม พบมีการทำร้ายร่างกายตนเองและผู้อื่นมากที่สุด 90 คน รองลงมาเป็นการทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย 58 คน ลักทรัพย์ 47 คน และทำลายข้าวของ 44 คน จากรายงานยังพบว่าผู้ที่ก่อเหตุรุนแรงที่ปรากฎข่าว เป็นผู้ป่วยจิตเวชที่เคยเข้ารับการบำบัด 104 คน
7 สัญญาณเตือน ลดก่อเหตุรุนแรง
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ประชาชนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและใช้แนวทางการสังเกตจาก 7 สัญญาณเตือนผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดก่อความรุนแรง ดังนี้
- ขีดข่วนหรือกรีดตัวเองเป็นรอยแผล
- ส่งเสียงดัง หรือตะโกนด่าด้วยคำหยาบคายรุนแรง
- ข่มขู่จะทำร้ายผู้อื่น
- ทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ
- พกพาหรือสะสมอาวุธโดยไม่สมเหตุสมผล
- รื้อ ขว้างปาข้าวของกระจัดกระจาย
- ทำลายสิ่งของจนแตกหัก
การสังเกตเฝ้าระวังพฤติกรรมและอาการที่เข้าข่ายเป็นผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตที่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษา ได้แก่ หูแว่ว เห็นภาพหลอน หวาดระแวงไร้เหตุผล อยากฆ่าตัวตาย ทำร้ายตนเอง ทำร้ายคนอื่น พูดจาก้าวร้าว พูดจาเพ้อเจ้อ หลงผิด และแต่งกายแปลกกว่าคนปกติ
ชุมชนร่วมดูแล-ส่งบำบัดเหมาะสม
ทั้งนี้ สามารถส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตอันเนื่องมาจากการใช้ยาเสพติดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง โดยการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือแจ้งเหตุฉุกเฉิน โทร. 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำตัวเข้ารักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลจิตเวช ให้ผู้ป่วยได้รับการบำบัดรักษาที่เหมาะสม เป็นการช่วยลดการก่อเหตุความรุนแรงในสังคม ตามแนวทางการส่งต่อผู้ป่วย ตามพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ.2551
นอกจากนี้ คนในชุมชนสามารถมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชได้ ดังนี้ 1.ช่วยกันดูแล ติดตามให้ผู้ป่วยกินยาอย่างต่อเนื่อง 2.ร่วมพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยจากการถูกเอาเปรียบจากสังคม 3.เฝ้าระวังสังเกตอาการ หากผิดปกติหรือมีอาการกำเริบให้รีบแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ 4.ส่งเสริมอาชีพ หางานอดิเรก เพื่อฝึกสมาธิและให้ผู้ป่วยมีรายได้ และ 5.ให้กำลังใจผู้ป่วยและสนับสนุนให้ผู้ป่วยสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชุมชน