พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิ ตั้งโต๊ะเจรจไกล่เกลี่ยเป็นรอบที่ 3 ระหว่าง นางแสงจันทร์ บุตะเขียว ลูกหนี้ และ นางสุพล ผลสมบูรณ์สุข ฝ่ายเจ้าหนี้ โดยมีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย ฝ่ายลูกหนี้ยื่นข้อเสนอขอยืดเวลาชำระหนี้ไปอีก 1 ปี แต่ได้รับการปฏิเสธจากฝ่ายเจ้าหนี้สุดท้ายตกลงกันที่ 4 เดือนในการชำระหนี้
สัปดาห์ที่แล้ว นางแสงจันทร์ เข้าร้องเรียน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถึง จ.ลพบุรี อ้างว่า ถูกยึดโฉนดที่ดินคืนภายหลังรับมอบได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง และยังอ้างว่า ข้อตกลงเดิมซึ่งระบุให้ใช้หนี้ 350,000 บาท ในเวลาเพียง 2 เดือนซึ่งเหมือนถูกมัดมือชก และเธอไม่มีความสามารถที่จะหาเงินมาใช้หนี้ตามกรอบเวลาที่กำหนด
ขณะที่ฝ่ายเจ้าหนี้ ชี้แจง การไกล่เกลี่ยรอบที่แล้ว กระทำต่อหน้าคณะกรรมการไกล่เกลี่ยระดับจังหวัด และเมื่อลูกหนี้ไม่นำเงินมาชำระหนี้สัญญาก็ต้องเป็นโมฆะไป การเจรจาครั้งนี้เธอขอความเป็นธรรม หลังตกเป็นจำเลยของสังคมและอยากให้ลูกหนี้เข้าใจว่า เงินที่ให้กู้ก็เป็นเงินที่กู้มาจากธนาคารเช่นกัน
จ.ชัยภูมิ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีการร้องเรียนกรณีชาวบ้านถูกนายทุนเงินกู้นอกระบบเอารัดเอาเปรียบ ที่ผ่านมา ตำรวจเข้าตรวจค้นอายัดโฉนดที่ดิน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับนายทุนทั้งเป็นการฉ้อโกง และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด และแม้จะมีการมอบโฉนดที่ดิน แต่เรื่องจากคดียังไม่สิ้นสุด ตำรวจจึงเป็นตัวกลางเก็บโฉนดที่ดินเอาไว้
ยังมีลูกหนี้อีกว่า 100 คนที่อยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ โดยวันนี้ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ นัดมาเจรจาและทำสัญญาใหม่กับเจ้าหนี้โดยเฉพาะลูกหนี้ที่มียอดเงินกู้หลักแสนถึงหลักล้านบาท นายทุนบางรายยอมให้ลูกหนี้นำที่ดินที่ติดจำนองหรือสัญญาไปขาย เพื่อนำเงินใช้หนี้ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ยุติปัญหาระหว่างลูกหนี้กับนายทุนเงินกู้