จ่อแจ้งความเพจขายยาลดน้ำหนัก หลังหญิง 30 ปี เสียชีวิต

อาชญากรรม
5 ก.ค. 62
11:11
2,164
Logo Thai PBS
จ่อแจ้งความเพจขายยาลดน้ำหนัก หลังหญิง 30 ปี เสียชีวิต
ญาติหญิง อายุ 30 ปี ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักจากอินเทอร์เน็ตมารับประทานแล้วเสียชีวิต เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งล่าสุด ปิดเพจหนีไปแล้ว หลังส่งทนายมาเจรจาไม่สำเร็จ

วันนี้ (5 ก.ค.2562) ญาติตั้งบำเพ็ญกุศล น.ส.มรกต เจริญกิจ หรือ เฟิร์น อายุ 30 ปี ที่วัดแปดแก้ว ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังเสียชีวิตจากการรับประทานยาลดน้ำหนัก ที่สั่งซื้อมาจากออนไลน์

นายวิสุทธ์  ม่วงเจริญ อายุ 38 ปี สามีของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ภรรยามีอาการหน้ามืดหมดสติ ตัวเองกับญาติจึงช่วยกันปั๊มหัวใจก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู จนกระทั่งช่วงบ่าย วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา มีอาการทรุดหนักและเสียชีวิตลง

แพทย์ลงความเห็นว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะจากการใช้ยาลดน้ำหนัก จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ พบว่าภรรยาสั่งยาลดน้ำหนักจากเพจแห่งหนึ่ง ซึ่งระบุว่าเป็นคลินิกลดน้ำหนัก โดยสั่งซื้อมารับประทานเป็นครั้งที่ 2 


สำหรับการสั่งครั้งที่ 2 ทางเพจได้แถมยากระชับต้นแขนมาให้ด้วย หลังจากกินได้ไม่กี่วัน ภรรยาก็เกิดช็อกหมดสติจนกระทั่งเสียชีวิต  ขณะทำการรักษาได้ติดต่อทางแชตกับเพจคลินิกดังกล่าว ซึ่งทางเพจได้ให้ทางทนายความติดต่อมาจะช่วยเหลือชดเชยเป็นเงินจำนวนหนึ่ง แต่ตนไม่รับ เพราะได้ปรึกษากับทางญาติ ว่าจะเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพื่อให้มีการตรวจสอบว่าเป็นยาที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้หรือไม่

ทั้งนี้ หน้าเพจของคลินิกดังกล่าว พบว่า ได้ถูกลบไปแล้ว โดยไม่สามารสืบค้นได้ว่ามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ เบื้องต้น ญาติเตรียมเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีแล้ว

พบสาร "ลอร์คาเซริน" คาดใส่อาหารเสริมลดความอ้วน

ส่วนกรณีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบตัวอย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก อย.และพบสารชนิดหนึ่งที่ชื่อ "ลอร์คาเซริน" ซึ่งเป็นยาควบคุมน้ำหนัก ที่ยังไม่มีจำหน่ายและไม่เคยพบมาก่อนในประเทศไทย

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า สารดังกล่าวออกฤทธิ์ควบคุมความอยากอาหาร แต่มีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ มีผลต่อหัวใจและภาวะทางจิตและประสาท

การใช้สารชนิดนี้ ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์เท่านั้น ไม่ใช้ร่วมกับยาควบคุมน้ำหนักชนิดอื่นๆ ยานี้เมื่อกินจะถูกดูดซึมได้ดีผ่านตับและขับออกทางปัสสาวะ จึงต้องระมัดระวังการใช้ในผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางตับและไต ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากมีผลต่อทารกในครรภ์

สำหรับลอร์คาเซรินที่พบการปนปลอมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทย คาดว่า นำมาใช้ทดแทนไซบูทรามีน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย ซึ่งไซบูทรามีนจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ดังนั้น จึงมีแนวโน้มการนำลอร์คาเซรินมาใช้ในทางที่ผิดสูง 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง