วันนี้ (9 ก.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่ามีการเปิดบ่อนการพนันในพื้นที่ ต.นาดี โดยมีรายงานว่าผู้ที่แจ้งเบาะแสให้ข้อมูลว่ามีนักพนันคนหนึ่งอ้างว่าบ่อนแห่งนี้จ่ายส่วยให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด จึงทำให้ไม่มีใครกล้าจับ
หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้รับแจ้งเบาะแส จึงสั่งการให้ฝ่ายปกครองเข้าทำการสืบสวนโดยแฝงตัวเข้าไปเล่นการพนัน และพบว่าบ่อนแห่งนี้เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ตั้งอยู่ภายในซอยเจ็ดศอก ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร มีนักพนันกว่า 40 คนกำลังล้อมวงเล่นพนันไฮโล โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นระบบ ใกล้กันพบคอมพิวเตอร์ 3 เครื่องเปิดบริการเล่นพนันออนไลน์ รวมทั้งพบโพยพนันฟุตบอลต่างประเทศด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าบ่อนแห่งนี้มีระบบกล้องวงจรปิด 12 ตัวที่จับภาพภายในและนอกร้าน รวมถึงมีคนดูต้นทาง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่แฝงตัวเข้าไปส่งสัญญาณความพร้อมเข้าจับกุม ทำให้นักพนันแตกตื่น แต่ทั้งหมดไม่สามารถหลบหนีได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ปิดล้อมทางเข้าออกไว้ทุกด้าน โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนักพนันรวม 51 คน เป็นชาย 24 คนและหญิง 27 คน ในจำนวนนี้มีชาวกัมพูชา 3 คน เมียนมา 3 คนและไร้สัญชาติอีก 1 คน พร้อมยึดของกลางอุปกรณ์การเล่นพนันและเงินสด 271,049 บาท
เบื้องต้น เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองแจ้งข้อหากับเจ้ามือพนัน ในความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ดังนี้ ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นอันระบุไว้ในบัญชี ก. หมายเลข 23 (ไฮโล) เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันทายผลฟุตบอลต่างประเทศ เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนัน ลักษณะการเล่นสล็อต พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ได้แจ้งข้อหานักพนันทุกคนในข้อหา เป็นผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันระบุไว้ในบัญชี ก. หมายเลข 23 (ไฮโล) เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมควบคุมตัวทั้งหมดและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม สํานักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวว่า หลังจากได้รับประสานจากนายอำเภอเมืองสมุทรสาคร จึงส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมวางแผนจับกุมบ่อนการพนันแห่งนี้ที่อ้างว่ามีการจ่ายส่วยให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร จนทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่พอใจอย่างมากและสั่งการให้ฝ่ายปกครองเข้าจับกุม
นายรณรงค์ ยังระบุอีกว่า ส่วนตัวรู้จักคุ้นเคยกับนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นอย่างดี เนื่องจากนายสมคิดเคยรับราชการอยู่ในกรมการปกครองมานานและถือเป็นข้าราชการที่ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อีกทั้งยังไม่มีประวัติด่างพร้อย จึงเชื่อว่าผู้ที่แอบอ้างไม่ได้รู้จักนายสมคิดเป็นการส่วนตัวและอาจเข้าใจว่าการอ้างตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะทำให้ไม่มีคนกล้าร้องเรียน