วานนี้ (19 ก.ค.2562) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่เกาะลิบง มีผู้นำชุมชนเกาะลิบง และอาสาสมัครผู้พิทักษ์ดูหยง พาดูการอนุบาลพะยูน "มาเรียม" ที่ตอนนี้สุขภาพดี ร่าเริง ว่ายน้ำ ดำน้ำได้ดี ซึ่งในแต่ละเดือนมาเรียมและยามีลต้องกินนม โดยมีค่าใช้จ่ายเดือนละหลักแสนบาท นายวราวุธ จึงได้มอบนมสำหรับพะยูนน้อยทั้ง 2 ตัว พร้อมมอบเครื่องยังชีพและชุดใส่ปฏิบัติงานในน้ำสำหรับเจ้าหน้าที่ และให้กำลังทีมสัตวแพทย์
นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งติดแท็กและไมโครชิปให้มาเรียมและยามีล เพื่อระบุตัวตนและติดตามความเคลื่อนไหว แทนการบินสำรวจอย่างเดียว นำร่องก่อนติดแท็กและไมโครชิปพะยูนตัวอื่นๆ ด้วย เพื่อช่วยอนุรักษ์และเพิ่มประชากรพะยูน ตั้งเป้าเพิ่มจาก 200 เป็น 400 ตัว โดยหลังช่วงมรสุมเตรียมให้ย้ายยามีลจาก จ.ภูเก็ต มาอยู่กับมาเรียมที่เกาะลิบง
นายวราวุธ ระบุว่า ต่อจากนี้ต้องจัดทำแผนพะยูนแห่งชาติ และเตรียมหารือจัดสัมมนาพะยูนโลกที่จังหวัดตรัง ส่วนเรื่องขบวนการล่าพะยูน ยืนยันว่า ไม่มีอย่างแน่นอน โดยเตรียมตั้งหน่วยข่าวทรัพยากร สืบหาข่าวในเชิงลึก
อย่าไปเชื่อ คนที่ขายน้ำตาพะยูน อ้างว่าจะทำให้คนหลงรัก ไม่จริง ต่อให้ใช้น้ำตาจากพะยูนร้อยตัวก็ทำให้คนหลงรักไม่ได้ ส่วนผู้ที่ครอบครองเขี้ยวพะยูน มีความผิดทางกฎหมาย
ภาพ : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ภาพ : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ขณะที่นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุว่า ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง หาพื้นที่สำรอง เพื่อย้ายมาเรียมไปอนุบาลในช่วงมรสุม เพราะที่ผ่านมาช่วงคลื่นลมแรงคาดว่ามาเรียมจะถูกคลื่นซัดไปไกล ทำให้หามาเรียมค่อนข้างลำบาก แต่จะสอบถามความคิดเห็นของชาวบ้านอีกครั้งก่อนดำเนินการ