วันนี้ (19 ก.ค.2562) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม (ทส.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง บริเวณบ้านห้วยม้าลอย ต.หนองสาหร่าย อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี พร้อมพบปะประชาชนในพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ทำให้ขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรในหลายพื้นที่
นายวราวุธ กำชับให้ทุกหน่วยงานของ ทส.พร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง เร่งให้ความช่วยเหลือบรรเทาปัญหาให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เกิดฝนทิ้งช่วงหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนและเกษตรกรขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร จึงเร่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และให้ความช่วยเหลือเป็นรายพื้นที่
เจาะบ่อบาดาล-ตั้งเครื่องสูบน้ำพลังแสงอาทิตย์
นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนบ้านห้วยม้าลอย ที่ผ่านมาเกษตรกรประสบปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่อการ เกษตรเป็นประจำ แต่ละปีสามารถเพาะปลูกพืชได้เพียงรอบเดียวเท่านั้น เช่น อ้อย มันสำปะหลัง และกล้วย เพราะต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ทำให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ รายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ทำให้เกิดปัญหาหนี้สิน และการละทิ้งถิ่นฐานเพื่อหารายได้ทางอื่นมาใช้จ่ายภายในครอบครัว
ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกรมทรัพยากรน้ำ เข้ามาพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้น ที่ประสบภัยแล้งเจาะบ่อน้ำบาดาล ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ก่อสร้างหอถังเก็บน้ำขนาด 20 ลูกบาศก์เมตร
พร้อมท่อกระจายน้ำระยะทาง 2,000 เมตร ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร 130-242 ไร่ ปัจจุบันเกษตรกรบ้านห้วยม้าลอยทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี และมีน้ำบาดาลใช้ เพื่อการเลี้ยงสัตว์ ส่วนพืชที่ปลูก เช่น อ้อย มันสำปะหลัง กล้วย มะนาว และพืชสมุนไพร อย่างขมิ้นชัน ไพล
ขณะนี้ยังได้บริหารจัดการน้ำผิวดินและน้ำบาดาล ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน 119 ล้านไร่ ในช่วงปี 2558-2561 รวม 15,914 แห่ง แบ่งเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค 8,189 แห่ง ประชาชนได้รับประโยชน์ 1.4 ล้านครัวเรือน เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน 290 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
การพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร 7,725 แห่งประชาชนได้รับประโยชน์ 50,028 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับประโยชน์ 678,690 ไร่ เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน 292 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี