วันนี้ (24 ก.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อสืบพยานโจทก์ คดีกลุ่มแกนนำ กปปส. หมายเลขดำ อ.247/2561 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง นายสุเทพ อายุ 70 ปี อดีตแกนนำ กปปส., ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กับพวก ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ, ขัดขวางการเลือกตั้ง และข้อหาอื่นฯ
ภายหลังสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว นายสุเทพ เปิดเผยกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายสุเทพ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ขณะนั้น) เรื่องการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง วงเงินกว่า 5,800 ล้านบาทว่า ยังไม่ได้รับแจ้งจาก ป.ป.ช.อย่างเป็นทางการว่าชี้มูลความผิดเรื่องอะไร แต่อ่านตามข่าวจากหนังสือพิมพ์ เพราะฉะนั้น ยังไม่ทราบเนื้อหารายละเอียด จึงขอให้ได้รับแจ้งจาก ป.ป.ช.อย่างชัดเจนเสียก่อนแล้วจะชี้แจงในแต่ละประเด็นตามข้อกล่าวหา
ชี้คดีสร้างโรงพักถูกหยิบยกมาโจมตีนานหลายปี
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นที่สนใจของประชาชน จำเป็นที่จะต้องมีคำอธิบายต่อประชาชน ขอเรียนว่ากรณีเรื่องการก่อสร้างสถานีตำรวจแล้วไม่เสร็จ ได้มีการหยิบยกมาเป็นประเด็นทางการเมืองกล่าวหาโจมตีตนมานานหลายปีแล้ว เริ่มตั้งแต่ช่วงที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีกล่าวหาตน คือนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ (ขณะนั้น) ซึ่งตนได้ดำเนินคดีกับนายธาริต ซึ่งปัจจุบันถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก
ทั้งนี้ กระบวนการที่จะพยายามดำเนินคดีกับตนนั้นยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง เฉพาะคดีที่อยู่ใน ป.ป.ช.ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ เป็นเวลา 5 ปีเศษ ซึ่งนานมากเป็นประวัติศาสตร์ และเมื่อ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลมาก็เป็นโอกาสที่จะได้นำความจริงทั้งหมดไปพิสูจน์กันตามกระบวนการยุติธรรม แล้วคดีนี้คงใช้เวลาไม่นาน เพราะคดีต้องเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ขอเรียนต่อประชาชนที่มีใจเมตตาต่อตนเองมาโดยตลอดว่าขอให้อดทนรำคาญใจไม่สบายใจอีกสักพัก เพราะว่าอีกไม่นานความจริงก็จะปรากฏขึ้นในการต่อสู้คดีในศาลฎีกาฯ ส่วนคนที่คิดร้ายกับตนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเก่าหรือกลุ่มใหม่ ตนไม่ติดใจอะไร และขอเรียนสื่อมวลชนให้ระมัดระวังรอบคอบในการนำเสนอข่าว เพราะได้ตรวจดูข่าวที่ลงในวันนี้แล้วมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งอาจจะจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ทางกฎหมายได้
ก็ได้แต่ปลง เพราะว่าก่อนหน้านี้มีคนพยายามให้ไปกราบไหว้วิงวอนจากใครบางคน ผมก็มาคิดว่าผมทำงานการเมืองมาตลอดเวลา ก็มีศักดิ์ศรี ผมไม่ใช่สุนัข เพราะฉะนั้นผมตั้งใจอย่างเดียวว่า ถ้าเพื่อประชาชนแล้วจะให้ผมทำอะไรก็ทำได้แต่ว่าจะไปขอความเมตตาจากคนที่คิดว่ามีอำนาจ ผมไม่ทำ แต่ผมเลือกที่จะพิสูจน์ศักดิ์ศรีด้วยการนำความจริงทั้งหมดไปสู้คดีในศาลฎีกาฯ จะไม่หลบหนีไปไหน เตรียมตัวที่จะสู้คดี เพราะฉะนั้นใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรก็แล้วแต่ ขอเรียนชี้แจงเพียงเท่านี้ เวลาอีกไม่นานก็จะรู้ความจริง
พร้อมมารับฟังคำพิพากษาคดี กปปส. พรุ่งนี้
นอกจากนี้ นายสุเทพยังกล่าวถึงคดีที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 4 แกนนำ กลุ่ม กปปส.ร่วมกันเป็นกบฏ และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยมีนายสกลธี ภัททิยกุล, ดร.เสรี วงษ์มณฑา, นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์, นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นจำเลย ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) ว่า จะมาฟังคำพิพากษา เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกันในฐานะที่เป็นผู้ร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ ก็จะมาอยู่เป็นกำลังใจให้กับเพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์ด้วยกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด "สุเทพ" คดีสร้างโรงพัก 396 แห่ง