เร่งสอบเหตุชาวบ้านทำร้าย ตร.เวียงแหง ไม่พอใจวิสามัญฯ ผู้ต้องหา

อาชญากรรม
24 ก.ค. 62
15:52
5,453
Logo Thai PBS
เร่งสอบเหตุชาวบ้านทำร้าย ตร.เวียงแหง ไม่พอใจวิสามัญฯ ผู้ต้องหา
พนักงานสอบสวนแบ่งสำนวนสอบสวน 5 สำนวน คดีชาวบ้าน 200 ปิดล้อมและทำร้ายรอง ผกก.สภ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ หลังไม่พอใจกรณีวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหายาเสพติด

วันนี้ (24 ก.ค.62) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ วิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ขณะต่อสู้ขัดขวางการจับกุม ต่อมามีชาวบ้านกว่า 200 คน ปิดล้อมและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ว่า

ได้รับรายงานจาก สภ.เชียงใหม่ ว่า เมื่อ วันที่ 23 ก.ค.62 เวลา 17.30 น. ตำรวจ สภ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ โดย พ.ต.ท.ตรีโลจน์ ปันตี รอง ผกก.สส. สภ.เวียงแหง, ร.ต.อ.ประเวสน์ ชุมแก้ว รอง สว.สส., ร.ต.อ.จรัญ ไชยชมภู รอง สวป. พร้อมด้วย ด.ต.จตุพงศ์ ยศเดช, ด.ต.นิรันต์ วังใน, ด.ต.สมจิตร ขันธปราบ และ ด.ต.ชัชวาลย์ วงศ์หาญ ออกตรวจสอบเป้าหมายการกระทำความผิดคดียาเสพติด ในพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมาย บ้านห้วยไคร้ใหม่ ม.5 ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง โดยประชุมวางแผนแบ่งกำลังออกเป็น 5 คน และใช้รถจักรยานยนต์ 3 คัน รถยนต์ 1 คัน

วิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหายาเสพติด

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถอ้อมเลยหมู่บ้านที่เกิดเหตุ เข้าไปในป่าท้ายหมู่บ้าน มีชาย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นคนซ้อนท้ายถืออาวุธปืนยาว ไม่ทราบชนิดและขนาด จึงแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ และให้สัญญาณให้หยุดรถ เพื่อขอทำการตรวจสอบ ทันใดนั้นชายคนขับได้หยุดรถและได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างทาง ส่วนชายคนซ้อนท้ายได้ลงจากรถ แล้วนั่งลงใช้อาวุธปืนยาวยิงใส่เจ้าหน้าที่ 2 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อาวุธปืนพก ยิงต่อสู้เพื่อป้องกันตัวและถูกชายคนดังกล่าวล้มลงได้รับบาดเจ็บ

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืนยาว 1 กระบอก ตกอยู่ข้างลำตัว ตรวจสอบที่ชายคนดังกล่าวสะพายอยู่ พบยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(เมทแอมเฟตามีน) จำนวนหนึ่ง และเครื่องกระสุนปืนขนาด .22 อีกจำนวนหนึ่ง ทราบชื่อนายจะจือ จะอ่อ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดรายสำคัญ ของ สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่หลบหนีมาซ่อนตัวในพื้นที่ สภ.เวียงแหง และลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่ใกล้เคียง

 

 

ชาวห้วยไคร้ใหม่ ไม่พอใจ-ปิดล้อมตำรวจ

จากนั้นจึงได้แจ้งแพทย์เวร โรงพยาบาลเวียงแหง เพื่อมาช่วยผู้บาดเจ็บ และแจ้งผู้บังคับบัญชาตามลำดับ พนักงานสอบสวนเวรทราบ และประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง สนับสนุนมาช่วยรักษาที่เกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรักษาที่เกิดเหตุอยู่ ได้มีกลุ่มญาติและชาวบ้านห้วยไคร้ใหม่ ที่ทราบเหตุการณ์ 200 คน ได้มายังที่เกิดเหตุและเข้าล้อมกรอบรุมทำร้าย พ.ต.ท.ตรีโลจน์ โดยใช้ไม้ตีและใช้ก้อนหินทุบบริเวณศีรษะ จนเป็นแผลแตก มีเลือดไหล เพื่อเข้าแย่งของกลางและพยายามทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และรุมทำร้าย ด.ต.ชัชวาลย์ ที่พยายามเข้าไปช่วย โดยใช้ไม้ตีและใช้ก้อนหินขว้างใส่ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน

นอกจากนี้ ทุบทำลายรถยนต์ รถจักยานยนต์ที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่สืบสวน เจ้าหน้าที่เห็นว่าไม่สามารถรักษาที่เกิดเหตุได้ จึงได้นำกำลังพร้อมของกลางทั้งหมดออกจากพื้นที่ โดยเดินอ้อมออกไปทางป่าท้ายหมู่บ้าน และขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ขับรถผ่านมานำตัว พ.ต.ท.ตรีโลจน์ ไปส่งโรงพยาบาลเวียงแหง แพทย์ได้ตรวจบาดแผลและรักษาโดยเย็บบาดแผลที่ศีรษะ จำนวน 10 เข็ม และเฝ้าดูอาการ ส่วนที่เกิดเหตุนั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมกันควบคุมสถานการณ์ และรักษาที่เกิดเหตุไว้ เพื่อรอพนักงานอัยการ แพทย์ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุต่อไป

 

 

แบ่งสอบสวน 5 สำนวน

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวน จะแบ่งสำนวนสอบสวนเป็น 5 สำนวน คือ 1.สำนวนคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมายและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต (ผู้เสียชีวิตตกเป็นผู้ต้องหา) 2.สำนวนคดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ฯ (ผู้เสียชีวิตตกเป็นผู้ต้องหา) 3.สำนวนคดีชันสูตรพลิกศพ ผู้ต้องหาที่เสียชีวิต 4.สำนวนคดีฆ่าผู้อื่นโดยอ้างเหตุป้องกันจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหา และ 5.สำนวนคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งได้กระทำการตามหน้าที่ฯ (ผู้ที่ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่) โดยพนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน รอผลการตรวจพิสูจน์ที่เกี่ยวข้องมาประกอบคดี และจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนภายในระยะเวลาตามกรอบกฎหมายได้กำหนด จากนั้นจะมีความเห็นทางคดีส่งสำนวนการสอบสวนตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ผบ.ตร.กำชับทำหน้าที่อย่างระมัดระวัง

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง หรือพื้นที่ที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยอย่างสูงที่สุด

ซึ่งที่ผ่านมา ผบ.ตร. เน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยึดหลักยุทธวิธีตำรวจและอาศัยข้อมูลทางด้านการข่าวในการทำงาน ประกอบกับการกระทำการตามอำนาจหน้าที่อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายเป็นสำคัญ อีกทั้งให้พนักงานสอบสวนให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนอย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงทางคดีเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน

สำหรับเหตุการณ์ที่มีญาติผู้ต้องหาและชาวบ้าน ไปยังที่เกิดเหตุและเข้าปิดล้อมเจ้าหน้าที่และรุมทำร้ายนั้น พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมประชุมเร่งรัดคดีและสอบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ร่วมกับนายอำเภอเวียงแหง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง