วันนี้ (26 ก.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมแถลงนโยบายรัฐบาลวันที่ 2 เมื่อเวลา 22.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจง โดยระบุว่า พิธีถวายสัตย์ฯ จบสิ้นไปด้วยความเรียบร้อย หลายคนคงรู้สึกเหมือนว่า 2 วันที่ผ่านมาที่รัฐบาลเก่า รัฐบาลใหม่นั่งอยู่ในสภา เพื่อรับฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในช่วงสุดท้ายที่เราจะจากกันด้วยดี มันถูกทำลายโดยใครก็แล้วแต่
อยากจะบอกว่า แม่ผมก็เป็นครู เมียผมก็เป็นครู แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเขาแสดงกิริยาแบบนี้ใส่ผม อาจเพราะเป็นคนใกล้ชิด คนอื่นก็กล้าก็ไม่เป็นไรหรอกผมไม่โกรธท่านหรอกครับ เพราะจะใช้ศาสนามากล่อมเกลาจิตใจผม เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ผมทุ่มเททำงานมาตลอด 5 ปี นึกถึงคนที่ทำงานแบบผมบ้าง ต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ผมเลือกไม่ได้บ้าง ไม่มีใครอยากทำหรอกครับ ถ้าไม่มีปัญหาผมจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าทำไม่ดีทั้งหมด จะเข้ามาในกระบวนการประชาธิปไตยอย่างไร ท่านจะบอกว่ามีคนบังคับ เอาปืนไปจ่อ มันไม่ใช่ พี่น้องทางบ้านจะเข้าใจผิด วันนี้เพื่อนสมาชิกในรัฐบาลใหม่ตั้งใจมาทำงาน ดูว่าจะทำงานได้หรือไม่
วันนี้เราติดหล่มประเทศมาเป็นเวลา 10 ปี เป็นบ้านที่ล้มเหลวเหมือนบ้านที่กำลังจะพังลงไป ต้องมาช่วยกันต่อเติม แต่ถ้างัดชะแลงอย่างนี้มันไปไม่ได้ การพูดจาอะไรก็ตามต้องมีหลักการและเหตุผล มีกฎหมาย ถ้าอ้างกลับไปกลับมา กฎหมายทุกฉบับมันใช้ไม่ได้หมด เมื่อกฎหมายใหม่ออกมาแล้วก็บังคับใหม่ กฎหมายเก่าจบไปแล้วก็คือจบ
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงตรงนี้ มี ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคนหัวเราะขึ้นมา ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถามว่า อะไรอีกครับ เกิดอะไรขึ้น มีใครไม่สบายรึเปล่า
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ผมรับไม่ได้ ทุกคนตั้งใจทำงาน วันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง เราเคารพในกฎหมายรัฐธรรมนูญ การทำงานจะมีผลหลังแถลงนโยบายในสภาอันทรงเกียรติ นี่รัฐสภาจะมีเกียรติ หรือไม่มีเกียรติ อยู่ที่คนนั่งในสภา
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องเศรษฐกิจต้องช่วยกันคิด ประชาชนต้องช่วยกันปรับเปลี่ยน วันนี้เงินมันหายไปเท่าไหร่ ปล่อยปละละเลยกันมาเท่าไหร่ เงินที่ช่วยผู้มีรายได้น้อยเอามาจากอะไร ผิดกฎหมายหรือเปล่า ปล่อยจนเงินว่อนไปหมด พอรัฐบาลเข้มงวดก็ว่ารังแกคน ถ้าอยากกลับแบบเดิมก็ไปเลือกตั้งมาใหม่
ผมรู้ว่าท่านต้องการให้ผมเป็นแบบนี้ แต่จริง ๆ แล้วผมเป็นยิ่งกว่านี้ ผมระมัดระวังที่สุดแล้ว เพราะทำงานท่ามกลางความกดดันทั้งสิ้น แบกภาระคนทั้งประเทศ 70 กว่าล้าน
ผมเป็นนายกรัฐมนตรีแบบนี้ เวลาดี ก็ดี ไม่ใช่ใจดีตลอดเวลา ไม่งั้นบังคับบัญชาใครไม่ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่เป็นผู้บังคับบัญชาคนคงใจดีตลอดไม่ได้ ผมอดทนมาตลอด เห็นนายกฯ โมโหแล้วชอบ ผมไม่ใช่คนบ้าแบบนั้นนะ เสียดาย 2 วัน ผมอดทนมาก ไม่โทษท่านหรอก ท่านคนดี คนเก่งทุกคน ส่วนเรื่องคดีความให้เป็นเรื่องของศาล ถ้าดีนักเก่งนักกลับเข้ามา ถามชาวบ้านอยากได้รถไฟ อยากได้ถนนไหม เราต้องทำใหม่ ใช้การบริหารราชการที่สุจริต