พื้นที่อุทยานทับลาน ออกทับที่ ส.ป.ก.​

อาชญากรรม
9 ส.ค. 62
11:37
1,720
Logo Thai PBS
พื้นที่อุทยานทับลาน ออกทับที่ ส.ป.ก.​
ผู้ตรวจการแผ่นดิน​ ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้าน จ.นคราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี เสนอแนวทางแก้พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน​ ออกทับซ้อนพื้นที่ ส.ป.ก.​ซึ่งเป็นความผิดพลาดของหน่วยงานรัฐและเรื้อรังมานานกว่า​ 20 ปี​

วันนี้ (9 ส.ค.2562) พลเอกวิทวัส​ รชตะนันทน์​ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ​ลงพื้นที่ที่เทศบาลตำบลครบุรีใต้​ อ.ครบุรี​ จ.นครราชสีมา ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน​หลายอำเภอใน​ จ.นครราชสีมา​ และ​ จ.ปราจีนบุรี​ ที่อาศัยทำกินในพื้นที่ที่เกิดปัญหาทับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติทับลาน​ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาดของหน่วยงานภาครัฐและเป็นปัญหาเรื้อรังมานานกว่า​ 20 ปี​

 


ชาวบ้านระบุว่า​ พวกเค้าเป็นผู้ได้รับสิทธิทำกินในที่ดิน​ ส.ป.ก.​ ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน​ พ.ศ.2521 ซึ่งขณะนั้นกรมป่าไม้​และ​ ส.ป.ก.​ ได้ร่วมกันสำรวจรังวัด​แนวเขตตามค่าพิกัดของกรมแผนที่ทหาร​ต่อมาปี​ 2524 มีการประกาศพระราชกฤษฎีกา​ กำหนดแนวเขตอุทยานแห่งชาติ​ทับลาน โดยไม่ได้ไปสำรวจพื้นที่จริง​ จนเกิดปัญหาแผนที่ทับซ้อน 

 


แม้ภาครัฐจะรับทราบปัญหาและหลายหน่วยงานก็ได้ร่วมกันสำรวจรังวัดเพื่อปรับปรุงแนวเขต​ในระหว่างปี​ 2533 ถึง​ 2543 แต่การแก้ไขพระราชกฤษฎีกาปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานกลับไม่แล้วเสร็จ​   กรมอุทยานฯ​ จึงต้องยึดถือพระราชกฤษฎีกาฯ​ ที่ประกาศในปี​ 2524​ ซึ่งมีปัญหา​เรื่องแนวเขต​ นำไปสู่การดำเนินคดีชาวบ้านว่าบุกรุก​ จนเกิดปัญหาพิพาทและเกิดความขัดแย้งระหว่างภาครัฐและชาวบ้านในพื้นที่


หลังมีการร้องเรียนต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อปี 2557 นำไปสู่การไต่สวนตรวจสอบข้อเท็จจริง​ ซึ่งล่าสุด​ ผู้ตรวจการแผ่นดิน​มีคำวินิจฉัยส่งถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่​ 7 ส.ค.​ 2562​ เสนอแนะให้หน่วยงานดำเนินการดังนี้​
1.​ ให้กระทรวงทรัพยากรฯ​ ปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน​ ตามผลสำรวจร่วมในปี​ 2543
2.​ ในส่วนพื้นที่เขตอุทยานฯ​ ให้กรมอุทยานฯ​ พิจารณาอนุญาตให้ประชาชนอาศัยทำกิน​ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อยไขทางกฎหมาย​
3.​ พื้นที่เสื่อมโทรมที่ถูกกันออกจากเขตป่า​ เสนอให้กรมป่าไม้​ รายงานเหตุผลให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ​ ออกกฎกระทรวงยกเลิกแนวเขต​ และส่งมอบพื้นที่แก่​ ส.ป.ก.​

 

พื้นที่ที่เกิดปัญหา​ครอบคลุมพื้นที่​ 5 อำเภอใน​ 2​ จังหวัด​ คือ​ อำเภอวังน้ำเขียว​ ปักธงชัย​ ครบุรี​ เสิงสาง​ จ.นครราชสีมา​ และอำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี   ทั้งนี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน​ ระบุคำวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอแนะให้แล้วเสร็จภายใน​ 120 วัน​

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง