"กป.อพช.ใต้" ขอตำรวจเร่งจับกลุ่มอิทธิพล อุ้มขังแกนนำค้านเหมืองแร่หิน

วันนี้ (13 ส.ค.2562) นายเอกชัย อิสระทะ เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จ.สงขลา เพื่อขอให้เร่งดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่นายเอกชัย ระบุว่า มีพฤติกรรมอุ้ม กักขัง หน่วงเหนี่ยว และข่มขู่ ระหว่างที่นายเอกชัย เดินทางไปสังเกตการณ์การประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อประกอบการพิจารณาคำขอประทานบัตรเหมืองหินในพื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา

 

ภาพ : บรรจง นะแส

นายบรรจง นะแส อดีตนายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย และ ที่ปรึกษา กป.อพช.ใต้ ที่ร่วมเดินทางมาให้กำลังใจนายเอกชัยด้วย ระบุว่า การกระทำดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าผู้กระทำไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายแต่อย่างใด โดยภาคประชาชนจะให้เวลาเจ้าหน้าที่ดำเนินการติดตามตัวผู้กระทำผิดหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะไปติดตามความคืบหน้าโดยตรงจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

 

ภาพ : บรรจง นะแส

 

กลไกในการจัดสัมปทานเหมืองหิน เหมืองแร่ อะไรก็แล้วแต่ ทำไปตามกฎหมาย ทำไมต้องเอาผู้มีอิทธิพลมาข่มขู่ผู้นำ เขามีสิทธิจะปกป้องบ้านของเขา แต่พอบรรยากาศเป็นแบบนี้ เราจะพัฒนาบ้านเมืองไปแบบนี้หรือ อย่าคิดว่าชาวบ้านจะกลัวพวกคุณ เพราะวันนี้มันไม่ใช่ ประเทศนี้จะไม่ได้ปกครองด้วยผู้มีอิทธิพลอีกต่อไปแล้ว เราเชื่ออย่างนั้น

มีรายงานว่า ก่อนเหตุการณ์อุ้มขังนายเอกชัย กลุ่มบุคคลที่คาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน ยังได้บังคับข่มขู่ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง ไม่ให้เข้าพื้นที่ไปทำข่าวเวทีรับฟังความคิดเห็น พร้อมบังคับให้เดินทางออกนอกพื้นที่ ซึ่งสื่อมวลชนในจังหวัดพัทลุงและสมาคมสื่อภาคใต้ ได้เข้าร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงและตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุงแล้ว จึงขอให้เร่งดำเนินการกับกรณีดังกล่าวด้วย

สำหรับพื้นที่เขาน้อย ซึ่งภาคเอกชนจะขอประทานบัตรเหมืองแร่หิน อยู่ในพื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง โดยภาคประชาชนระบุว่า มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำและใช้ประโยชน์ร่วมกันของชุมชน ซึ่งการพยายามดำเนินการดังกล่าวของบริษัทเอกชน เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้งก่อนหน้านี้ แต่ถูกชาวบ้านในพื้นที่คัดค้านมาโดยตลอด กระทั่งเหตุการณ์ล่าสุด ที่ชาวบ้านอ้างว่าได้ถูกคุกคามจากกลุ่มอิทธิพล ที่คาดว่ามีความเกี่ยวข้องและมีผลประโยชน์จากการขอประทานบัตรเหมืองหินดังกล่าว

 

ประณามเหตุคุมคามนักปกป้องสิทธิชุมชน

ด้านความเคลื่อนไหวขององค์กรพัฒนาเอกชนและองค์กรสิทธิต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เช่น คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ภาคใต้ ออกแถลงการณ์ ระบุ ขอให้เร่งดำเนินคดีผู้ข่มขู่คุกคามนักปกป้องสิทธิชุมชน ด้วยความเป็นธรรม พร้อมขอให้หน่วยงานรัฐแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้

ขณะที่ สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน หรือ สสส. ออกแถลงการณ์ ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด พร้อมพิจารณายกเลิกการขอประทานบัตรเหมือนหิน หากมีการตรวจสอบแล้วพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน

 

 

มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) เผยแพร่แถลงการณ์ "53 องค์กรเครือข่ายภาคประชาชน" ประณามการข่มขู่คุกคามนายเอกชัย อิสระทะ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชน ในการจัดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นโครงการเหมืองแร่หิน จ.พัทลุง โดยขอเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดจับกุมผู้กระทำผิด พร้อมขอให้ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพัทลุง และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ตรวจสอบและทบทวนกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในกรณีคำขอประทานบัตรโครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน โดยเฉพาะเวทีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อโครงการได้อย่างแท้จริง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ค้านเอกชนขอประทานบัตรเหมืองหินระเบิดภูเขาสร้างท่าเรือปากบารา จ.สตูล