คุมตัว 2 ผู้ต้องหาระเบิดป่วนกรุง สอบเข้มก่อนฝากขัง

อาชญากรรม
14 ส.ค. 62
06:37
669
Logo Thai PBS
คุมตัว 2 ผู้ต้องหาระเบิดป่วนกรุง สอบเข้มก่อนฝากขัง
ตำรวจชุดอรินทราช คุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุวางระเบิดที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 2 คน เข้ามากรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (13 ส.ค.) ซึ่งมีการแยกคุมขังทั้ง 2 คน ไปยัง สน.ปทุมวัน และ สน.บางรัก

เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.2562) ผู้ต้องหา 2 คนในเหตุลอบวางระเบิดที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ถูกตำรวจชุดอรินทราช คุมตัวจากศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้าที่ จ.ยะลา เข้ามากรุงเทพฯ เพื่อส่งตัวดำเนินคดีในท้องที่เกิดเหตุ หลังคุมตัวไปสอบสวนตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลังที่คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาถึงกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ได้แยกคุมขังทั้ง 2 คน โดย 1 คน ฝากขังที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ส่วนอีกคนฝากขังที่สถานีตำรวจนครบาลบางรัก และเป็นการแยกขังเดี่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณพื้นที่โดยรอบทั้ง 2 แห่งด้วย

 

 

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 4 ข้อหา คืออั้งยี่ซ่องโจร ร่วมกันทำใช้ มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพกพาอาวุธ คือระเบิดไปในเมือง-ที่ทางสาธารณะ นอกจากนี้ มีข้อมูลจากคณะพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมว่ามีมติจะแจ้งข้อหาก่อการร้ายกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเพิ่มด้วย เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาทำกันเป็นขบวนการ ตั้งแต่ประชุมวางแผน จัดทีมงานปฏิบัติการ

ยังไม่มีความชัดเจนกรณีโอนสำนวนคดีให้กองปราบปราม


ส่วนการย้ายโอนสำนวนคดีให้กองปราบยปรามเป็นผู้ดูแล ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ยังต้องรอคำสั่งที่เป็นทางการจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งคาดว่าในเช้าวันนี้ (14 ส.ค.) จะมีความชัดเจน ซึ่งกองปราบได้เตรียมความพร้อมโดยการจัดสถานที่ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแล หากผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จะต้องย้ายตัวเข้าสอบสวนต่อที่กองปราบปรามภายหลังที่หมดอำนาจคุมตัวในชั้นสอบสวน คือ 48 ชั่วโมง จะคุมตัวทั้ง 2 คน ขออำนาจศาลอนุญาตฝากขัง ยังศาลอาญากรุงเทพใต้ ตามขั้นตอนทางกฎหมาย

 

 

สำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 1-2 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น ตำรวจคุมตัวผู้ต้องสงสัย เข้าสอบปากคำไปแล้วหลายคน พร้อมยืนยันว่าพื้นที่ถูกลอบวางระเบิดทั้งหมดนั้น ผู้ก่อเหตุเป็นขบวนการเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขยายผลติดตามผู้ต้องสงสัย ร่วมขบวนการเพิ่มเติม

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง