วันนี้ (16 ส.ค.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์และงานเดินรถรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก วงเงิน2.3 แสนล้านบาทว่า อาจต้องเลื่อนเปิดประมูลไปเป็นปี 2564 เนื่องจากขัดกับวินัยการเงินการคลังของงบประมาณปี 2563
เนื่องจากงบประมาณไม่พอไปดำเนินโครงการ หรือเปิดประมูลเพื่อจ่ายค่าก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้กระทรวงคมนาคมเหลืองบประมาณอยู่ประมาณ 30,000 ล้านบาท แต่โครงการดังกล่าวต้องใช้งบประมาณมากถึง 90,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงต้องไปตั้งของบประมาณปี 2564 แทน ส่งผลกระทบทำให้การประมูลต้องเลื่อนออกไปเป็นในปี 2564
ส่วนงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ อาจจะต้องปรับกรอบเวลาในการดำเนินการให้สอดคล้องกับสายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2566-2567 เนื่องจากสัญญาว่าจ้างเอกชนเดินรถเป็นสัญญาเดียวตลอดเส้นทางดังนั้นจึงต้องรอการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกด้วย
สำหรับแผนพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง 4 เส้นทาง ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยืนยันว่า จะผลักดันรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายเหนือช่วงกรุงเทพ-พิษณุโลก-เชียงใหม่ วงเงินลงทุนมากกว่า 500,000 ล้านบาท และรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายใต้ช่วงกรุงเทพ-หัวหิน-สุราษฎร์ธานี วงเงินประมาณ 400,000-500,000 ล้านบาท ตามแผนที่กระทรวงคมนาคมกำหนดไว้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาในประเทศ
ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า จะเรียกผู้รับเหมาและเอกชนที่ดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกเข้าพบ เพื่อชี้แจงการขยับกรอบเวลาของโครงการดังกล่าว แต่ยืนยันว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนเดิม ซึ่งการเลื่อนประมูลงานเดินรถออกไปจะไม่กระทบ โดยรฟม.จะกำหนดให้เอกชนผู้รับงานติดตั้งระบบและเดินรถ เร่งงานให้เร็วมากขึ้นเพื่อให้ทันกำหนดการเปิดให้บริการสายสีส้มตะวันออกในปี 2567