รวบยกแก๊งชาวเวียดนามหลอกขาย "อุปกรณ์ลดค่าไฟฟ้า"

อาชญากรรม
23 ส.ค. 62
11:31
2,187
Logo Thai PBS
รวบยกแก๊งชาวเวียดนามหลอกขาย "อุปกรณ์ลดค่าไฟฟ้า"
ตำรวจบุกจับแก๊งชาวเวียดนาม หลอกลวงขายอุปกรณ์อ้างช่วยลดกระแสไฟฟ้าผ่านเฟซบุ๊กนาน 2 ปี คนหลงเชื่อสั่งซื้อไปกว่า 1 แสนเครื่อง ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ผลวิจัย ระบุแค่อุปกรณ์เพิ่มความสว่าง-ไม่ช่วยประหยัดไฟ

วันนี้ (23 ส.ค.2562) พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี ( ปอท.) ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และการไฟฟ้านครหลวง ร่วมกันแถลงผลจับกุมแก๊งชาวเวียดนาม หลอกลวงขายเครื่องประหยัดไฟฟ้าโพสต์ขายผ่านทางเฟซบุ๊ก

ทั้งนี้ หลังฝ่ายสืบสวนนำหมายศาลบุกเข้าตรวจค้นบ้านพัก 2 หลัง ในซอยเคหะร่มเกล้า 31 เขตลาดกระบัง พบผู้ต้องหา 4 คน กำลังบรรจุสินค้าส่งขายให้กับลูกค้า พร้อมกับตรวจยึดของกลางอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า บัญชีซื้อขายและอุปกรณ์จัดส่งพัสดุ ไว้เป็นหลักฐาน

 

นอกจากนี้ ยังขยายผลไปตรวจค้นสถานที่เก็บสินค้า ซึ่งเป็นบ้านพักใน ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ยึดอุปกรณ์ที่ประกอบเสร็จแล้ว 64 ชิ้น ส่วนที่รอการประกอบอีก 228 ชิ้น รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวกับการจัดส่งสินค้าอีกจำนวนหนึ่ง

 

 

แอบอ้างการไฟฟ้า-โฆษณาชวนเชื่อ 

โดยพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้ใช้วิธีการโฆษณา ผ่านทางเพจ Expert Electric และ เพจอุปกรณ์ช่วยประหยัดไฟฟ้า พาวเวอร์ แฟคเตอร์ เซเวอร์ ของแท้ 100% อ้างว่าสินค้าชิ้นนี้ เมื่อนำไปเสียบกับปลั๊กไฟในบ้าน จะสามารถลดค่าไฟได้ โดยในเพจ ยังนำภาพของการไฟฟ้านครหลวง เช่น ภาพการอบรมเจ้าหน้าที่ ภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า รวมถึงภาพสื่อมวลชน ไปแอบอ้างว่าเป็นสินค้าที่ได้รับการรับรอง สามารถใช้งานได้จริง

เบื้องต้นตำรวจสอบสวนผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน ทราบว่ามีนายทุนเป็นชาวเวียดนาม 2 คน ว่าจ้างให้ทำหน้าที่รับออเดอร์ จัดส่งสินค้าขายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเปิดขายมานานกว่า 2 ปี แล้ว ในราคาเครื่องละ 999 บาท

แต่ละวันจะมีผู้สั่งซื้อไม่น้อยกว่าวันละ 100 คน คาดว่ามีการขายให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า 100,000 เครื่อง มีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

 

 

ผลวิจัยชี้สินค้าแค่เพิ่มความสว่างไม่ช่วยประหยัดไฟ


ขณะที่ตัวแทนการไฟฟ้านครหลวง ยืนยันว่า สินค้าดังกล่าวได้ส่งให้แผนกวิจัยตรวจสอบแล้ว พบว่าภายในเป็นเพียงหม้อแปลงกระแสไฟฟ้า และหลอดไฟแอลอีดี  เมื่อนำไปใช้งานอุปกรณ์เพียงทำให้หลอดไฟแอลอีดีสว่างขึ้น ไม่ได้ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าตามที่มีการโฆษณาแต่อย่างใด

ที่ผ่านมาการไฟฟ้านครหลวง ก็เคยประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเป็นระยะๆ แต่ไม่เคยเข้าแจ้งความ กระทั่งในระยะหลังนี้ มีการนำภาพของการไฟฟ้านครหลวงไปแอบอ้าง เข้าข่ายเป็นความผิดกฎหมายชัดเจน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

 อย่างไรก็ตาม ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุใน 3 ข้อหา ฐานจำหน่ายสินค้าที่ควบคุมฉลาก, นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต  ฉ้อโกงประชาชน และฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งหลังจากนี้จะขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องที่เหลือทั้งหมดต่อไป

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง