กรมการค้าภายในเตรียมทำข้าวเหนียวถุงขายคนจน

เศรษฐกิจ
28 ส.ค. 62
13:22
3,458
Logo Thai PBS
กรมการค้าภายในเตรียมทำข้าวเหนียวถุงขายคนจน
กรมการค้าภายในเตรียมตรวจสอบสต็อกข้าวตรงตามแจ้งหรือไม่ พร้อมแก้ปัญหาข้าวเหนียวขาดแคลนจะร่วมกับภาคเอกชนจัดทำข้าวเหนียวบรรจุถุงราคา กิโลกรัมละ 35 บาท ช่วยกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการเป็นหลัก คาดจำหน่ายได้สัปดาห์หน้า

วันนี้ (28 ส.ค.2562) กรมการค้าภายในเชิญภาคเอกชน 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ผลิตข้าวถุง ผู้ประกอบการโรงสีข้าว และห้างค้าปลีกทั้งค้าส่ง เช่น บิ๊กซี โลตัส แม็คโคร และเซ็นทรัล เพื่อหาแนวทางการจัดทำข้าวเหนียวบรรจุถุงราคาถูกกว่าท้องตลาด

 

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า ที่ประชุมได้เห็นตรงกันว่าจะจัดหาข้าวเหนียวที่มีอยู่ มาให้ผู้ผลิตข้าวถุง เป็นผู้ผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐาน ในแบรนด์ของกรมการค้าภายใน โดยใช้ข้าวเหนียว 10% ปีการผลิต 61/62 เพื่อป้องกันการนำข้าวเสื่อมคุณภาพมาทำข้าวถุง

เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ข้าวเหนียวประมาณ 500-1,000 ตัน ทำข้าวเหนียวถุง ขนาดละ 2 กิโลกรัม และ 5 กิโลกรัม ประมาณ 2-3 แสนถุง จำหน่ายในราคา 35 บาทต่อกิโลกรัม จากราคาตลาดที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม

กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้มีรายได้น้อย ที่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะวางจำหน่ายผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ เน้นที่ภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง สามารถซื้อได้ทั้งผู้มีบัตรและผู้ไม่มีบัตรสวัสดิการ

ส่วนห้างห้างค้าปลีก จะจำกัดให้ผู้มีบัตรสวัสดิการซื้อเท่านั้น พร้อมจำกัดการซื้อขนาดถุงละ 2 กิโลกรัม จำกัดไม่เกินคนละ 3 ถุง ขนาด 5 กิโลกรัม จำกัดคนละไม่เกิน 2 ถุง คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายได้ภายในปลายสัปดาห์หน้า ซึ่งหากไม่เพียงพอกับความต้องการ ก็สามารถผลิตเพิ่มเติมได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบกับข้าวเหนียวฤดูกาลใหม่ที่กำลังทยอยออกสู่ตลาด ซึ่งหากมากเกินไปจะกระทบกับราคาข้าว

 

ทั้งนี้ เชื่อว่าปัญหาข้าวเหนียวขาดแคลนจะคลี่คลายลงในปลายเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากผลผลิตทยอยออกสู่ตลาดแล้ว พร้อมเตือนชาวนา อย่าปลูกข้าวเหนียวมากเกินไป เพราะตลาดข้าวเหนียวค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกับข้าวขาวและข้าวหอมมะลิ โดยให้รักษาระดับการผลิตไว้ให้อยู่ในระดับปกติ ที่มีผลผลิตเฉลี่ย 6-7 ล้านตัน

สำหรับการรายงานปริมาณสต็อกข้าวเหนียว ตามประกาศสำนักคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 24 พ.ศ.2562 ล่าสุดมีผู้ยื่นรายงานแล้ว 660 รายใน 57 จังหวัด รวมเป็นปริมาณข้าวเหนียว ที่อยู่ในมือผู้ค้าข้าวทั้งระบบกว่า 42,096 ตัน แบ่งเป็นข้าวเปลือกเหนียว 8,178 ตัน / ข้าวสารเหนียว 21,984 ตัน และปลายข้าวสารเหนียวอีก 11,934 ตัน

ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีการกักตุนหรือไม่ เนื่องจากจะต้องตรวจสต็อกซ้ำว่าปริมาณที่แจ้งตรงกับสต็อกที่มีอยู่จริงหรือไม่ โดยให้พาณิชย์จังหวัด รวมทั้งจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว และออกตรวจสอบซ้ำ ซึ่งหากพบว่าแจ้งเท็จจะดำเนินการตามกฎหมายทันที คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง