วันนี้ (18 ก.ย.2562) ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายปมการถวายสัตย์เข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ บรรดา ส.ส.ต่างทยอยเดินทางมาถึงอาคารรัฐสภา เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส และนายวิรัช รัตนเศรษฐ ฯลฯ
เวลา 09.30 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กล่าวชี้แจงขั้นตอนและหลักการในเตรียมประชุมอภิปรายทั่วไป ซึ่งวันนี้มีประเด็นปมการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบของนายกรัฐมนตรี
เวลา 09.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงรัฐสภา เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเตรียมอภิปรายชี้แจงประเด็นถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ และแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา กรณีไม่แจ้งที่มางบประมาณ
เวลา 09.50 น. นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ระบุเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยว่าการถวายสัตย์ฯของนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 161
เวลา 09.55 นายชวน ตอบกรณีที่นายวีระกร ซักถามเรื่องที่รัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยแล้ว แต่ที่ประชุมสภาฯ ยังได้การกำหนดให้มีญัตติปมถวายสัตย์ฯ ซึ่งไม่ใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ
จากนั้นเวลา 10.06 น. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรก บอกเหตุผลที่ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายทั่วไปการถวายสัตย์ฯ ไม่ครบตามมาตรา 161 เพราะในข้อเท็จจริงนายกรัฐมนตรี และครม.กล่าวปฏิญาณขาดถ้อยคำ ที่เป็นสาระสำคัญ ที่ระบุทั้งจะรักษาไว้เรื่องการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ จึงมีปัญหาความชอบว่าด้วยรัฐธรรมนูญของการถวายสัตย์
นายสมพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการให้โอกาสทั้งนายกฯ และครม.แก้ไขข้อผิดพลาดและหาทางออก แต่นายกฯ เพิกเฉย จึงต้องนำมาสู่การเปิดอภิปรายวันนี้
ในการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีต้องกล่าวถ้อยคำการถวายสัตย์ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 161 บัญญัติไว้เท่านั้น จะกล่าวถ้อยคำที่น้อยกว่า หรือยาวกว่าที่กำหนดไว้ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เคยเขียนหนังสือไว้ว่า ถ้ากล่าวไม่ครบจะถือว่าผู้นั้นยังเป็นรัฐมนตรีที่ไม่สมบูรณ์
นายสมพงษ์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอิสระ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถ้านายกฯ และ ครม. ถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ จึงถือว่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้ทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 และจะส่งผลต่อความชอบธรรมในการแถลงนโยบายและมีผลต่อการอนุมัติงบประมาณ