ผบ.ตร.ฟิลิปปินส์ "ลาออก" หลังถูกกล่าวหาปกป้องลูกน้องเกี่ยวข้องยาเสพติด

ต่างประเทศ
15 ต.ค. 62
12:36
262
Logo Thai PBS
ผบ.ตร.ฟิลิปปินส์ "ลาออก" หลังถูกกล่าวหาปกป้องลูกน้องเกี่ยวข้องยาเสพติด
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ 3 สัปดาห์ หลังจากถูกกล่าวหาว่าปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบขายยาเสพติดของกลาง

เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2562 พล.ต.อ.ออสการ์ อัลบายาลเด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่จะหมดวาระในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ซึ่งถือว่าเป็นลงจากตำแหน่งก่อนหมดวาระเพียง 3 สัปดาห์ 

พลตำรวจเอกออสการ์ อัลบายาลเด (ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์)

พลตำรวจเอกออสการ์ อัลบายาลเด (ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์)

พลตำรวจเอกออสการ์ อัลบายาลเด (ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์)

 

การลาออกครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ เขาถูกวุฒิสภาฟิลิปปินส์ไต่สวนด้วยข้อกล่าวหาว่าใช้อำนาจระหว่างดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจจังหวัด ในปี 2556 เข้าแทรกแซงเพื่อปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาจากการถูกกล่าวหาว่า “ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งเป็นของกลางที่ยึดมาได้เป็นจำนวนมาก” ขณะที่อดีตตำรวจอีกรายหนึ่งยังกล่าวหาว่า “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนนี้รับเงินจากการค้ายาเสพติดด้วย” 

พลตำรวจเอกออสการ์ อัลบายาลเด (ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์)

พลตำรวจเอกออสการ์ อัลบายาลเด (ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์)

พลตำรวจเอกออสการ์ อัลบายาลเด (ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์)

 

ด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ออกมายืนยันในความบริสุทธิ์ พร้อมทั้งระบุว่า "ไม่เคยถูกตั้งข้อหาอาญาหรือข้อหากระทำความผิดที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด" 

ประธานาธิบดีโรดรีโก ดูเตอร์เต และพลตำรวจเอกออสการ์ อัลบายาลเด (ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์)

ประธานาธิบดีโรดรีโก ดูเตอร์เต และพลตำรวจเอกออสการ์ อัลบายาลเด (ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์)

ประธานาธิบดีโรดรีโก ดูเตอร์เต และพลตำรวจเอกออสการ์ อัลบายาลเด (ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์)

 

เรื่องอื้อฉาวในวงการตำรวจฟิลิปปินส์ครั้งนี้ทำให้นโยบายการปราบปรามยาเสพติดด้วยความรุนแรงของประธานาธิบดีโรดรีโก ดูเตอร์เต ถูกวิจารณ์มากขึ้น ซึ่งจากข้อมูลของตำรวจฟิลิปปินส์ ระบุว่า ผลจากนโยบายนี้ทำให้ผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 5,500 คน ขณะที่กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนระบุว่าแท้จริงแล้วตัวเลขอาจมากกว่านี้ถึง 4 เท่า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง