เตรียมฟ้องศาลสู้ค่าโง่โฮปเวลล์

เศรษฐกิจ
15 ต.ค. 62
19:00
2,019
Logo Thai PBS
เตรียมฟ้องศาลสู้ค่าโง่โฮปเวลล์
"ศักดิ์สยาม" เตรียมยื่นฟ้องศาลกรณีโฮปเวลล์เป็นบริษัทเถื่อน-ต่างชาติ หากจดทะเบียนไม่ถูกต้อง จะทำให้คดีค่าโง่โฮปเวลล์ 1.2 หมื่นล้านบาทเป็นโมฆะ

วันนี้ (15 ต.ค.2562) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าแนวทางการต่อสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์ มูลค่า 12,000 ล้านบาทว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมมีแนวทางต่อสู้คดีโดยการฟ้องร้องต่อศาลแพ่งและพาณิชย์ เพื่อให้ศาลตรวจสอบหลักฐานที่การรถไฟแห่งประเทศ (รฟท.) ค้นพบและพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป

 

 

ขณะที่ประเด็นหลักที่จะมียื่นร้อง คือเรื่องของประเด็นการจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งต้องตรวจสอบว่า ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลังจากพบข้อมูลว่า บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ได้รับการยกเว้น ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 (ปว. 281) เนื่องจากครม.ในขณะนั้น ไม่ได้เห็นชอบให้ดำเนินการในการยกเว้น ปว. 281 เป็นต้น และมีข้อสงสัยเรื่องของผู้ถือหุ้นต่างชาติที่ถือหุ้นมากกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีการใช้ตัวแทนถือหุ้นแบบนอมินี ซึ่งคณะทำงานมีความเห็นว่า การจดทะเบียนไม่ถูกต้อง ทำให้สัญญาโฮปเวลล์ ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก ซึ่งไม่ได้เป็นการเรียกค่าเสียหาย โดยคณะทำงานได้รวบรวมข้อมูลค่อนข้างครบแล้ว จะนำเสนอบอร์ดรฟท.เพื่อมอบอำนาจในการฟ้องแพ่ง

ดังนั้น จะต้องรอคำตัดสินของศาลว่าจะมีการวินิจฉัยอย่างไรต่อไป แต่จะไม่มีการฟ้องร้องคดีแพ่งเพื่อเรียกค่าชดเชยจากเอกชนแน่นอน ส่วนจะมั่นใจว่า มีโอกาสชนะคดีมากน้อยแค่ไหนนั้น ไม่สามารถตอบได้ ต้องให้เป็นดุลยพินิจของศาล  

ส่วนคดีโฮปเวลล์ที่ศาลตัดสินและมีกำหนดให้จ่ายค่าชดเชยในวันที่ 19 ต.ค.นี้ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลังจากครบกำหนดหลังศาลตัดสินแล้ว 180 วัน ก็จะเดินหน้าชำระค่าชดเชยตามที่มีคำสั่ง พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 มูลค่าประมาณ 25,000 ล้านบาท ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้พิจารณาแนวทางและวิธีการชดใช้รวมถึงแผนจัดหาแหล่งเงินทุนต่อไป

 

 

ส่วนคดีอาญาเพื่อฟ้องร้องเรียกเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องกับคดีค่าโง่โฮปเวลล์นั้น ขณะนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้มีการรับเรื่องไปดำเนินการแล้วเพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของที่ได้มีการมอบหมายทางอัยการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดในการขอรื้อฟื้นคดีโฮปเวลล์ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง