วันนี้ (16 ต.ค.2562) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า กรณีที่ ครม.มีมติย้าย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม จากซี 9 เป็นซี 10 ตำแหน่งสูงขึ้น
ในส่วนของคดีนายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) ซึ่ง พ.ต.ท.กรวัชร์ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวนั้น พ.ต.อ.ไพสิฐ ยืนยันการย้ายครั้งนี้จะไม่กระทบการทำงาน เนื่องจากดีเอสไอทำงานในรูปคณะกรรมการ โดยคณะกรรมการประกอบไปด้วย พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน และผู้ทรงคุณวุฒิ โดยจากนี้เตรียมเชิญ พ.ต.ท.กรวัชร์ มาเป็นที่ปรึกษาคดีเพื่อสานต่อคดีให้ต่อเนื่อง เพราะทางคดียังจะต้องเชิญพยาน ทั้งคนเดิมและคนใหม่ มาสอบสวนเพิ่มอีก 20 ปาก และขณะนี้ยังต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาตร์ในการตรวจกระดูก
ส่วนสำนวนคดี พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเตรียมสรุปสำนวนส่งให้อัยการในกรอบเวลาที่ตั้งไว้คือวันที่ 3 ธ.ค.นี้
"สมศักดิ์" ย้ำ ให้รางวัลไม่ใช่ลงโทษ
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวโดยยืนยันว่าการย้าย พ.ต.ท.กรวัชร์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นการให้รางวัล เนื่องจากตำแหน่งสูงขึ้นจากข้าราชการระดับซี 9 เป็นซี 10 ที่สามารถปรับโยกไปดำรงตำแหน่งอื่นในระดับอธิบดีได้ในอนาคตได้ เพราะเป็นผู้ที่มีผลงานดีมาตลอด และเจ้าตัวก็พอใจกับการย้ายครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อคดีการเสียชีวิตของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านบางกลอยแน่นอน เนื่องจากดีเอสไอทำงานเป็นทีม และยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากันภายในแต่อย่างใด