ถุงปลูกใช้ซ้ำ "Magik Growth" นวัตกรรมลดขยะ-ดูแลต้นไม้

สิ่งแวดล้อม
26 ต.ค. 62
14:31
3,661
Logo Thai PBS
ถุงปลูกใช้ซ้ำ  "Magik Growth" นวัตกรรมลดขยะ-ดูแลต้นไม้
นักวิจัย สวทช.คิดค้นนวัตกรรม "Magik Growth" ถุงปลูกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้แล้ว ใช้ซ้ำ ลดสร้างขยะ พร้อมแผ่นเส้นใยพิเศษที่มีรูพรุนเล็กๆ ทำให้น้ำและอากาศถ่ายเทได้ดี เหมาะกับการปลูกพืชระยะสั้นที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ 30 วัน ถึง 1 ปี

วันนี้ (26 ต.ค.2562) ดร.ณัฐภพ สุวรรณเมฆ นักวิจัยกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีโพลิเมอร์ขั้นสูง พร้อมทีมวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยี "Magik Growth" ถุงปลูกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมรักษ์โลก

โดยใช้เทคโนโลยีในการขึ้นรูปเส้นใยแบบพิเศษ ทำให้เส้นใยมีความยืดหยุ่นแบบผ้าสปันบอนด์ ออกแบบให้มีความหนาที่เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด โดยแผ่นเส้นใยที่มีรูพรุนเล็กๆ ทำให้น้ำและอากาศถ่ายเทได้ดี เหมาะกับการนำไปปลูกพืชระยะสั้นที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่ 30 วัน ถึง 1 ปี ทั้งพืชตระกูลแตง เมล่อน แคนตาลูป แตงกวา รวมถึงมะเขือเทศ พริก ฟักทอง หรือพืชที่เน้นปลูกในโรงเรือน ที่สำคัญถุงปลูก Magik Growth สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำในการปลูกครั้งต่อไปได้

ปัญหาขยะพลาสติกกลายเป็นผู้ร้ายในวันที่สถานการณ์สิ่งแวดล้อมทั่วโลกเลวร้าย เนื่องจากการปนเปื้อนของไมโครพลาสติก ที่คร่าชีวิตสัตว์ทะเลนับไม่ถ้วนรวมถึงเข้ามาปนเปื้อนกับเมนูอาหารของมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นการนำกลับมาใช้ซ้ำอย่างคุ้มค่า ไม่สร้างขยะเพิ่ม ให้ปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม อาจเป็นทางที่ต้องหันมาทบทวนการใช้พลาสติกอย่างจริงจัง

สำหรับการปลูกต้นไม้ ระบบรากเป็นส่วนสำคัญมาก รากมีหน้าที่ดูดซับสารอาหาร และลำเลียงไปเลี้ยงส่วนลำต้น ใบ ดอก และผล รวมถึงยึดเกาะลำต้นให้ติดกับวัสดุปลูก และหน้าที่สำคัญของรากอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือการสร้างฮอร์โมนพืช เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต ทั้งส่วนยอดและการออกดอก ดังนั้นถ้าเราสามารถทำให้รากพืชมีการเจริญเติบโตที่ดี แข็งแรงสมบูรณ์ ก็จะสามารถดูดซับธาตุอาหารได้เต็มที่ การสร้างฮอร์โมนพืชจะเพิ่มขึ้น ทำให้ผลผลิตก็จะสูงขึ้นอย่างมาก

หากปลูกในถุงพลาสติกธรรมดาทั่วไป อาจก่อให้เกิดปัญหารากยาวและขดได้ เพราะรากพยายามหาอาหาร น้ำ และอากาศที่เหมาะสม แต่สำหรับการปลูกด้วยถุง Magik Growth นั้น การเจริญเติบโตที่ดีคือรากหลักจะสั้น และมีรากแขนงหรือรากฝอยมากกว่า ซึ่งการมีรากเส้นเล็กเยอะๆ จะช่วยในการดูดซึมอาหารได้ดีขึ้นเพื่อไปบำรุงส่วนลำต้น ใบ และออกดอกออกผลได้ดีกว่า

ไม่เพียงคุณสมบัติที่ช่วยให้พืชหายใจได้สะดวกในถุงปลูก Magik Growth อีกทั้งยังเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพถุงปลูก Magik Growth ยังมีการคิดค้นสีที่มีนัยสำคัญทางวิทยาศาสตร์ ในการใช้คลื่นแสงที่เหมาะสมกับชนิดพืช แถมสีสันที่เลือกไม่ดึงดูดแมลง ลดการเข้าทำลายต้นพืชได้อีกด้วย

ดร.ณัฐภพ  ระบุว่า จากข้อมูลที่เคยได้รับรากพืชไม่ต้องการแสง เกษตรกรจึงมักใช้กระถางพลาสติกสีดำ หรือถุงพลาสติกสีดำในการปลูกพืช ทำให้รากเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ จะทะลุออกนอกถุงลงไปใต้ดินเพื่อหาอาหาร นั่นเป็นเพราะพืชไม่สามารถรับสารอาหาร แสงแดด อากาศ ได้เพียงพอจากถุงปลูกปกติ

ถุงปลูก Magik Growth เราออกแบบให้รากฝอยเข้ามาเกาะที่ผิวข้างในถุง แสงสามารถทะลุผ่านถุงปลูก Magik Growth มาที่รากได้ ทำให้รากได้รับแสงที่เหมาะสม กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนในการช่วยเร่งการยืดตัวของยอด และการติดดอก ติดผลได้มากขึ้น

ไม่เพียงการปลูกพืชในโรงเรือนอย่างเกษตรแปลงใหญ่ที่รอเก็บผลผลิตกันปีต่อปีจากถุงปลูก Magik Growth เท่านั้น การปลูกต้นไม้ของคนเมืองหลวง ที่อาศัยตามตึกสูง หรือบ้านใจกลางเมือง ก็โหยหาพื้นที่สีเขียวเล็กๆ ไว้พักสายตามแบบฉบับคนเมืองเช่นกัน

ถุงปลูก Magik Growth ของเรายังสามารถปลูกผักสวนครัวได้ ทั้งพริกขี้หนู ผักชี กะเพรา โหระพา ด้วยหลักการเดียวกันคือปลูกในพื้นที่โดนแดด อากาศถ่ายเท ไม่วางติดกันมากจนเกินไป ก็สามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน ระเบียงคอนโด ตึกสูงระฟ้าในเมืองได้เช่นกัน ส่วนการเก็บเกี่ยวผลผลิตขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคน

ทั้งนี้ ทีมวิจัยกำลังมีแผนที่จะทำให้ถุงปลูก Magik Growth เป็นวัสดุสำหรับใช้กับสวนแนวตั้งในเมือง เพื่อเพิ่มความต้องการในการใช้ถุงปลูกที่ใช้ซ้ำได้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เมือง โดยกลุ่มพืชที่สนใจนำมาปลูกอาจเป็นพืชสมุนไพรเล็กๆ ที่กินได้ อาทิ มินต์ บัวบก สาระแหร่ เป็นต้น


ปัจจุบันทีมวิจัยยังให้ความรู้และสร้างความตระหนักให้กับเครือข่ายเกษตรกรที่ใช้ ถุงปลูก Magik Growth โดยแนะนำให้ทำจุดรวบรวมถุงปลูกที่ผ่านการใช้ซ้ำมาพอสมควรแล้ว นำไปรวมกันที่จุดรับซื้อถุง เพราะถุงปลูก Magik Growth ผลิตจากพอลิเมอร์ที่ให้ค่าความร้อนจะสูงกว่าขยะทั่วไป ซึ่งโรงงานผลิตไฟฟ้าที่ทีมวิจัยประสานไว้พร้อมจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละประมาณ 1 บาท ซึ่งช่วยหมุนเวียนนำกลับไปเผาเป็นพลังงานไฟฟ้า ลดการทิ้งพลาสติก ลดการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่ง สำหรับผู้สนใจนวัตกรรม Magik Growth สามารถติดต่อ เอ็มเทค สวทช. โทร: 02 564 6500 ต่อ 4707, 4786 ในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 9.30-16.30 น.

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง