ระทึกไฟไหม้รถ จยย.จอดหน้า รพ.ศูนย์อุดรฯ เสียหายกว่า 30 คัน

ภูมิภาค
30 ต.ค. 62
19:05
1,264
Logo Thai PBS
ระทึกไฟไหม้รถ จยย.จอดหน้า รพ.ศูนย์อุดรฯ เสียหายกว่า 30 คัน
เกิดเหตุเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์กว่า 30 คัน บริเวณหน้าสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ถ.เพาะนิยม ตรงข้ามโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนหาสาเหตุ ยืนยัน ไม่ได้เกิดจากการก่อวินาศกรรม

วันนี้ (30 ต.ค.2562) ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บริเวณหน้าสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ถ.เพาะนิยม ตรงข้ามโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้ออกไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ร.ต.อ.ธนพล ศิริโชคปัญญากุล รอง สว.สอบสวน ร.ต.อ พงศ์พล ผิวผ่อง รอง สวป. ตำรวจสายตรวจ 191 ตำรวจจราจร พร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาลนครอุดรธานี


เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เร่งฉีดน้ำดับไฟ หลังไปถึงที่เกิดเหตุพบ ไฟลุกไหม้ลามไปยังรถจักรยานยนต์ที่จอดเรียงกันอยู่เป็นจำนวนมาก ก่อนจะควบคุมเพลิงได้ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีรถจักรยานยนต์เสียหายทั้งคัน 12 คัน และที่เสียหายบางส่วน 22 คัน นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ถูกไฟไหม้เสียหาย ส่วนสาเหตุและและค่าเสียหาย อยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ด้าน น.ส อารีรัตน์ จันทรา อายุ 35 ปี ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังยืนรอลูกค้าอยู่ที่จุดบริการลูกค้า ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ได้ยินเสียคล้ายระเบิด จึงหันไปมอง พบว่า ไฟกำลังลุกไหม้รถจักรยานยนต์คันหนึ่ง จึงรีบบอกเพื่อนวินให้มาช่วยกันเข็นรถออกจากที่เกิดเหตุ ขณะนั้นก็มีเจ้าหน้าที่เทศกิจ วิ่งนำถังดับเพลิงมาฉีดพ่น แต่ก็ไม่สามารถดับไฟได้ จนกระทั่งรถดับเพลิงมาถึงจึงสามารถควบคุมเพลิงไหม้ไว้ได้

ขณะที่ พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดเหตุเหลิงไหม้ครั้งนี้ได้ เนื่องจากยังไม่มีผู้ใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกไฟไหม้เสียหาย โดยผู้เสียหายจะต้องให้พนักงานสอบสวนทำการรสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสว่า มีการนำสิ่งของอะไรไว้ใต้เบาะรถหรือไม่ เช่น ไฟแช็ก หรือ เพาเวอร์แบงก์ เป็นต้น แต่มั่นใจว่าไม่ได้เกิดจากการก่อวินาศกรรมแน่นอน เพราะบริเวณแถวนี้มีประชาชนผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา และเป็นกลางวันด้วย

ทั้งนี้ ทางตำรวจชุดสืบสวนจะทำการตรวจสอบภาพกล้องลวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง และต้องรอผลสรุปของตำรวจพิสูจน์หลักฐานว่า สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากอะไร หากใครเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ และรถเก๋งที่ถูกไฟไหม้ ขอให้ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะดำเนินการ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง