“พญาเสือ” จับเครือข่ายลอบค้าสัตว์ป่าผ่านเฟซบุ๊ก ยึดของกลาง "นาก-นางอาย-ชะนี"

สิ่งแวดล้อม
31 ต.ค. 62
18:32
945
Logo Thai PBS
“พญาเสือ” จับเครือข่ายลอบค้าสัตว์ป่าผ่านเฟซบุ๊ก ยึดของกลาง "นาก-นางอาย-ชะนี"
ชุดพญาเสือจับเครือข่ายลอบค้าสัตว์ป่าผ่านเฟซบุ๊กยึดของกลางนาก นางอาย และชะนี ส่งขายให้ผู้นิยมสัตว์แปลก พบ 2 เดือน เงินหมุนเวียนกว่า 3 แสนบาท

วันนี้ (31 ต.ค.2562 ) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ที่ปรึกษาหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยพญาเสือ) และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายลักลอบค้าสัตว์ป่าผ่านเฟซบุ๊ก จำนวน 2 กลุ่ม โดยรูปแบบจะเป็นการเปิดค้าขายสัตว์ป่าผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก เมื่อมีการติดต่อซื้อสัตว์ป่าจากผู้ซื้อก็จะจัดส่งสัตว์ป่าไปส่งยังผู้ซื้อโดยใช้รถโดยสารประจำทางและให้แวะรับสัตว์ป่าในระหว่างทางที่รถโดยสารจอดเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลและติดต่อล่อซื้อจนสามารถจับกุมและยึดของกลางได้ในที่สุด

 

คดีแรกเจ้าหน้าที่ติดต่อผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เพื่อขอซื้อนางอาย 1 ตัว เป็นเงิน 3,500 บาท จากนั้นพบว่า เงินถูกโอนไปยังนายจีรติ เมฆทัศน์ และได้มีการส่งสัตว์ป่าผ่านทางรถโดยสารปรับอากาศประจำทางเส้นทาง เบตง- ยะลา -กทม. โดยสามารถยึดของกลางเป็นนางอายจำนวน 1 ตัว และขยายผลและเตรียมออกหมายเรียกนายจีรติมาสอบสวน โดยประสานให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ดำเนินการต่อ 

 

ขณะที่อีกคดีเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อขอซื้อสัตว์ป่าผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ตรงนี้ วันที่รอคอย”, “นากน้อยแสนรู้” และ “วัยรุ่น สร้างตัว” ซึ่งมีการโพสต์ภาพและข้อความในการจำหน่ายนากเล็กเล็บสั้น ชะนี และชะนีมือขวา และสามารถควบคุมตัวนายวุฒินันต์ แสงแก้ว ซึ่งทำหน้าที่แอดมินเพจที่ประกาศขายสัตว์ป่า โดยยึดนากเล็กเล็บสั้น จำนวน 10 ตัว และชะนี 1 ตัว 

 

จากนั้นขยายผลไปยังนายเอกรัฐ วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นผู้จัดหาสัตว์ป่า ซึ่งยังพบว่านายเอกรัฐ เคยถูกดำเนินคดีมาแล้วเมื่อวันที่ 24 ต.ค.2561ซึ่งศาลสั่งปรับ 10,000 บาท และรอลงอาญา แต่ก็ถูกจับดำเนินคดีในวันที่ 24 ต.ค.2562 และ 30 ต.ค.2562 


จากนี้ต่อไป เจ้าหน้าที่จะรวบรวมข้อมูลคดีเก่าที่นายเอกรัฐเคยถูกพิพากษาเพื่อให้อัยการพิจารณาต่อไป และยื่นคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากนายเอกรัฐก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 กลุ่ม ถูกฟ้องดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือ 1.มีสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ไว้ในครอบครอง 2.ค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง และ 3.ซ่อนเร้น อำพรางสัตว์ป่าคุ้มครอง นอกจากนี้จะเตรียมประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของเครือข่ายดังกล่าวเพื่อดำเนินการขยายผลและอายัดทรัพย์ต่อไป

 

นอกจากนี้ในการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเบื้องต้นพบว่าในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา มีการค้าขายสัตว์ป่ารวมกว่า 50 รายการ รวมเป็นเงินกว่า 300,000 บาท และพบว่ามีการค้าขายมาแล้ว 2-3 ปี นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่ลักลอบค้าสัตว์ป่าอีกหลายกลุ่มซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามจับกุมต่อไป 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง