กรณีมีโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์การแจกส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่จ.กระบี่ ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาเป็นประธานมอบให้กับผู้ผ่านการพิจารณา 335 ราย เนื้อที่กว่า 4,000 ไร่ ในพื้นที่จ.กระบี่ เมื่อ12 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในผู้รับมอบคือนายสมัชชา เอ่งฉ้วน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเขต 2 จ.กระบี่ รับมอบที่ดินส.ป.ก.จำนวน 16 ไร่ จนถูกวิจารณ์เรื่องคุณสมบัติว่าเหมาะสมหรือไม่
วานนี้ (16 พ.ย.2562) มีรายงานว่าสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สั่งการให้ จ.อ.วันชัยเกิดด้วยทอง ปฏิรูปที่ดินจ.กระบี่ ทำรายงานชี้แจงรายละเอียดแล้ว โดยรายละเอียดในรายงานชี้แจงบางส่วนระบุว่าพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน โครงการที่สาธารณประโยชน์ทุ่งหน้าวัวหมู่ที่ 5 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ ตามผลการรังวัดแปลงเลขที่ 1 ระวางที่ 4725/8406 เนื้อที่ประมาณ 16 ไร่
ที่ดินดังกล่าวได้มาโดยนายสมเกียรติ เอ่งฉ้วน บิดานายสมัชชา เป็นผู้ยกให้เมื่อปี 2550 มีลักษณะการทำประโยชน์โดยปลูกปาล์มน้ำมัน ต่อมานายสมัชชา ได้ยื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแปลงเลขที่ 1 เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ส.ป.ก.กระบี่ สอบสวนสิทธิปรากฏว่าเป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในรอบปี เพื่อประกอบเกษตรกรรมแห่งท้องถิ่น ได้ครอบครองและทำประโยชน์อยู่ในแปลงที่ดินมีที่ดินอื่น ทั้งที่อยู่ในเขต และนอกเขตปฏิรูปที่ดิน เมื่อรวมกับที่ดินที่จะได้รับจากการปฏิรูปที่ดินแล้วไม่เกิน 50 ไร่ ตามระเบียบที่ส.ป.ก. เพราะพบมีโฉนดที่ดินนายสมัชชา อยู่ก่อนแล้วเนื้อที่ 1 ไร่เศษ
ในการประชุมครั้งที่ 2/2562 ของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินอำเภอเมืองกระบี่เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบการมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของส.ป.ก.รายนายสมัชชา เพื่อนำเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน จ.กระบี่ พิจารณาอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน
กระทั่ง ในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุญาตให้นายสมัชชา เข้าทำประโยชน์ในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดินแปลงข้างต้น ครบกำหนดระยะเวลาการประกาศผลการคัดเลือกเกษตร กรให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.กระบี่ ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดคัดค้านแต่อย่างใด
จี้ตรวจสอบนอมินียึดที่ดิน สปก.
ด้านนายชูวงศ์ มณีกุล ที่ปรึกษาด้านกฎหมายกลุ่มชาวบ้านผู้เรียกร้องที่ดินทำกินที่ปัก หลักชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ มากว่า 2 เดือน เพื่อเรียกร้องให้รัฐยึดคืนพื้นที่ดินสวนปาล์มน้ำมัน ที่หมดอายุสัมปทานใน จ.กระบี่ จำนวน 14 แปลงพื้นที่กว่า 78,000 ไร่มาจัดสรรให้กับคนยากจน ตามมติ ครม.ปี 2546 ตั้งข้อสังเกตว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่ามีผู้รับมอบหลายรายที่ถือสิทธิครอบครองแทนบุคคลอื่น
บางส่วนมีกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลังบางคนไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ทำกินจริงบางคนอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง แต่มารับสิทธิทำกินในพื้นที่ จ.กระบี่
จึงอยากให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาเคยเกิดปัญหานอมินี ถือครองพื้นที่ส.ป.ก.แทนบริษัทเอกชนกว่า 4,000 ไร่ ต่อมามีการตรวจสอบจนถูกเพิกถอนสิทธิแล้วในจ.กระบี่
แจงผ่านเฟซบุ๊ก ตรวจสอบ 3 ปีเข้าเกณฑ์
เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสมัชชา ยังโพสต์ข้อความชี้แจงเรื่องนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า “เรียนชี้แจงผู้ที่อยากทราบข้อมูล เนื่องจากที่ที่ผมครอบครองอยู่ในระเบียบที่จะรับเอกสาร ส.ป.ก.ได้ และการดำเนินการขอที่ดินนี้เกิดขึ้น ก่อนที่จะมีพรรคพลังประชารัฐ และผมจะคิดสมัคร ส.ส.
แต่ในเมื่อเข้าเกณฑ์ ที่ใด้รับจึงยื่นเรื่องตามขั้นตอน ไม่ใด้ไปใช้อำนาจพิเศษได้ เพราะมีการตั้งกรรมการตรวจสอบกันไม่ต่ำกว่าสามปีจนของคนอื่นได้รับไปหมดแล้ว??? ผิดไหมที่เราเป็นเกษตรกร ผิดไหมเราเป็นหลานผู้ใหญ่บ้าน, ผิดไหมเราเป็น ส.จ.ตัวแทนชาวบ้าน 12 ปี, ผิดเหรอเราเป็นหลาน ส.ส.แล้วเราเหมือนจะรวย แต่ที่จริงไม่รวย ??? ไม่ผิดนะที่ไม่เคยโกงใครโกงชาติ ตามที่ปู ย่าตายาย สั่งสอนมา”