"อนุทิน" โพสต์ขอ ส.ส.ผ่านงบฯ พัฒนาห้องฉุกเฉิน 492 ล้านบาท

สังคม
18 พ.ย. 62
11:06
422
Logo Thai PBS
"อนุทิน" โพสต์ขอ ส.ส.ผ่านงบฯ พัฒนาห้องฉุกเฉิน 492 ล้านบาท
อนุทิน ชาญวีรกูล โพสต์เฟซบุ๊กขอ ส.ส.ผ่านงบฯ 492 ล้านบาท เพื่อพัฒนาศักยภาพห้องฉุกเฉิน 39 แห่ง ย้ำความจำเป็นช่วยเหลือผู้ป่วยได้ดีขึ้นและป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทในห้องฉุกเฉิน

วันนี้ (18 พ.ย.2562) เวลา 11.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า "ฉุกคิดสักนิด ก่อนตัดงบห้องฉุกเฉิน" พร้อมรายละเอียดว่า เมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ผมได้เซ็นหนังสือเสนอของบประมาณเพิ่มเติมของกระทรวงสาธารณสุข กรณีมีการแปรญัตติ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ซึ่งกำลังพิจารณากันในชั้นกรรมาธิการวิสามัญ ของสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เรื่องหลักๆ คือ ขอเพิ่มเติมงบประมาณก่อสร้าง ต่อเติม ขยายอาคารผู้ป่วย เพื่อรองรับผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้น เครื่องมือแพทย์ให้บริการประชาชนได้ดีขึ้น ทันสมัยขึ้น และระบบกำจัดขยะ ระบบบำบัดน้ำเสียของโรงพยาบาล ซึ่งต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

 

ผมพิจารณากลั่นกรองหลายรอบแล้ว เห็นว่า เรื่องที่เสนอของบประมาณเพิ่มเติมทุกเรื่องเป็นเรื่องที่จำเป็น และต้องได้รับงบประมาณ จึงจะดูแลประชาชนให้ได้รับการรักษาพยาบาลที่ดีขึ้นได้ จึงอยากจะขอความกรุณาท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ได้โปรดให้การสนับสนุนงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขตามที่เสนอให้ท่านพิจารณาด้วย เรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่อยากจะกราบขอร้องทุกท่านช่วยกันพิจารณาสนับสนุนเป็นพิเศษ ก็คือ เรื่องการพัฒนาศักยภาพการทำงานของห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาล ทั้งด้านการบริการจัดการพื้นที่รองรับผู้ป่วย พื้นที่ญาติ การจัดหาเครื่องมือแพทย์ที่ต้องช่วยเหลือผู้ป่วยในสถานการณ์วิกฤต และค่าตอบแทนแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และบุคลากรทางการแพทย์ตามความเหมาะสม

ในปีงบประมาณ 2563 ได้เสนอจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพห้องฉุกเฉินทั้งระบบในโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยบาลทั่วไป รวม 39 แห่ง ต้องใช้งบประมาณ 492,733,800 บาท อันที่จริงอยากจะทำมากกว่านี้ แต่ติดขัดเรื่องงบประมาณ และเข้าใจความจำเป็นของทุกหน่วยงาน เราจึงขอเพียงเท่านี้ก่อน ซึ่งประมาณการว่าน่าจะพัฒนาการทำงานของห้องฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ ช่วยเหลือผู้ป่วยได้ดีขึ้น และป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทในห้องฉุกเฉินได้ ขอความกรุณาทุกท่านช่วยกันสนับสนุนเพื่อการดูแลรักษาชีวิตของประชาชนทุกท่านที่มาถึงห้องฉุกเฉิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง