อย.ตรวจสอบเยลลี่กัญชา-นำเข้าผิดกฎหมาย

กรณีนักศึกษาสาวโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก อ้างว่าเจอดาราชายคนหนึ่งให้กินเยลลี่โดยพูดติดตลกว่าเป็นเยลลี่กัญชาเกิดจนเกิดอาการมึนศีรษะ และหัวใจเต้นผิดปกติจนต้องไปโรงพยาบาล วานนี้ (18 พ.ย.2562) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไปติดตามเรื่องนี้แล้ว พร้อมฝากเตือนประชาชนว่าถึงแม้กัญชาเป็นพืชที่มีประโยชน์ แต่ในประเทศไทย ยังอนุญาตให้ใช้ในทางการแพทย์และการวิจัยเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้ทั่วไป

ผู้ที่มีการลักลอบใช้โดยไม่มีเหตุจำเป็น หรือนำเข้าจากต่างประเทศก็จะถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย ในไทยยังไม่อนุญาต นอกจากใช้ทางการแพทย์

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ปกติกัญชามีสารหลายอย่าง แต่หากจะออกฤทธิ์เร็วสุดคือการหยดใต้ลิ้น หรือการเผาแล้วสูดดม ซึ่งการรับกินมีสารออกฤทธิ์เหมือนกันแต่ไม่มาก เพราะต้องผ่านระบบการย่อย ผ่านตับ กว่าจะออกฤทธิ์ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ และต้องดูปริมาณที่ใส่ลงไป รวมถึงดูที่ความสามารถในการรับสารของแต่ละบุคคลด้วย

ภาพ:กระทรวงสาธารณสุข

 

อย่างไรก็ตามกรณีที่มีการนำกัญชาไปใส่ในอาหาร ในต่างประเทศมีการทำอยู่ แต่ใช้สารซีบีดี เพราะไม่ทำให้เกิดการเสพติดหรือมึนเมา แต่ไม่ได้ใส่ลงไปในปริมาณมาก ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร มีการนำเข้ามาหรือไม่ แต่กฎหมายไทยไม่อนุญาต เพราะมีการออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ทำให้เกิดความเคลิบเคลิ้ม มึน ขึ้นอยู่กับบุคคล และปริมาณที่ได้รับ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง สธ.ลั่นไม่อนุญาตใส่กัญชาในขนมไทย

คาดเยลลี่กัญชา-แนะนำมาตรวจวิเคราะห์

ด้าน เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ของ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ จากภาควิชาชีววิท ยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความว่า ได้ตอบกรณีที่นักข่าวโทรมาถามความเห็นเรื่องที่มีนักศึกษาฝึกงานสาว ไปทานข้าวกับรุ่นพี่และดาราหนุ่ม แล้วได้กินเยลลี่กับทาเจลล้างมือ ก่อนที่จะรู้สึกมึนงงเหมือนถูกมอมยา ก็อธิบายไปว่า ถ้าสงสัยว่าจะมี "ยาป้าย" อยู่ในเจลล้างมือนั้น ก็ไม่ใช่แน่ๆ เพราะยาป้ายให้สลบนั้นไม่มีจริงหรอก

แต่ที่เริ่มมีข้อมูลกันว่าเยลลี่ที่กินเข้าไป อาจจะเป็น "เยลลี่กัญชา" นั้น ก็พอเป็นไปได้ เพราะในต่างประเทศมีขายกัน เป็นเหมือนขนมที่ผสมสาร CBD หรือ THC ที่สกัดจากกัญชา ซึ่งบางประเทศนั้นจัดให้เป็นสินค้าถูกกฏหมาย แต่ประเทศไทยเราผิดกฏหมายนะครับ อย่างไรก็ตาม

ก็ต้องไปเอาทั้งเยลลี่ทั้งเจลล้างมือ มาตรวจสอบวิเคราะห์ว่ามีสารอะไรปนอยู่หรือเปล่า รวมทั้งอาหารและน้ำดื่มด้วย ซึ่งพวกอาหาร และน้ำดื่ม สามารถจะผสมยานอนหลับหรือยาสลบได้ง่ายกว่ามากครับ

ไม่ว่าคำสรุปจะเป็นอย่างไร อุทาหรณ์ของเรื่องนี้ก็ยังเหมือนคำสอนของพ่อแม่ตอนเด็กๆ ว่าให้ระวังและอย่าไว้ใจคนแปลกหน้าครับ

เตรียมเรียกผู้เกี่ยวข้องชี้แจง

มีรายงานว่า ตำรวจเตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะคนในเหตุการณ์ หรือบุคคลแวดล้อม เข้าให้ปากคำในทุกประเด็นข้อสงสัย หลังจากก่อนหน้านี้ นักศึกษาสาวได้เข้ามาให้ข้อมูลแล้วบางส่วน แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ขณะที่ตำรวจ ได้รวบรวมหลักฐานจากภาพวงจรปิดมาแล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังคงต้องรอผลจากทางนิติวิทยา ศาสตร์ เพื่อนำมาประกอบด้วยว่านักศึกษาเกิดอาการมึนงงจากอะไร และก็ยังไม่ยืนยันว่า ขนมเยลลี่ดังกล่าวทำให้เกิดอาการมึนงงหรือไม่

ความต่างของ CBD และ THC ในพืชกัญชา

ขณะที่ข้อมูลจาก กรมสุขภาพจิต ระบุว่า CBD และ THC ในพืชกัญชา คืออะไร??

ในกัญชานั้นมีสารทั้ง 2 ชนิดอยู่ ซึ่งตอนแรกค้นพบ THC ก่อน และภายหลังจึงรู้จัก CBD คือทั้งสองชนิดนี้คล้ายคลึงกันมากๆ (แต่มันให้ผลลัพธ์ต่างกัน) อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ก็คือ ทั้งสองประกอบด้วย คาร์บอน 21 อะตอม ไฮโดรเจน 30 อะตอม และอ็อกซิเจน 2 อะตอม แต่ที่มันต่างกันก็เพราะ “การเรียงตัวของอะตอม” ไม่เหมือนกัน

ผลเสีย

• (THC) อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการโรคจิตเภท โดยเฉพาะสําหรับผู้ที่มี ปัจจัยเสี่ยงเช่น ผู้ที่มีปัญหาโรคจิตในครอบครัว หรือพันธุกรรม ผู้ป่วยโณคจิตจากสารเสพติดและแอลกอฮอล์ เป็นต้น
• (THC) หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะชลอการทํางานของสมองและทําให้สมองหยุดสร้างสารเคมีที่ทําให้รู้สึกดี และทําให้รู้สึกหงุดหงิดง่ายเวลาไม่ได้ใช้
• (THC) มีผลต่อการพัฒนาในด้านลบของสมองที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ กัญชาจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาสมองของเยาวชน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นิรโทษกัญชาทะลุ 2 หมื่นคน-พบวัยรุ่นแจ้งครอบครองเพียบ

อย.ให้ผู้ป่วยครอบครองกัญชาได้อีก 3 เดือน หลังแจ้งนิรโทษ