เตือน "หมึกสายวงน้ำเงิน" โผล่ทะเล​ จ.ชุมพร

สิ่งแวดล้อม
20 พ.ย. 62
11:32
7,809
Logo Thai PBS
เตือน "หมึกสายวงน้ำเงิน" โผล่ทะเล​ จ.ชุมพร
ทช.เตือน "หมึกสายวงน้ำเงิน" สัตว์ทะเลที่มีพิษรุนแรง โผล่ทะเลชุมพร โดยชาวประมงจับได้ ชี้หากสัมผัสโดนตัวของมัน หรือนำไปประกอบอาหาร ก็จะเจอกับพิษอันรุนแรงกว่างูเห่า 20 เท่า สามารถตายได้ภายใน 2-3 นาที

วันนี้ (20 พ.ย.2562) นายโสภณ​ ทองดี​ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง​ (ทช.)​ กล่าวว่า​ จากกรณีที่ชาวประมงจับหมึกสายวงน้ำเงินได้ที่ จ.ชุมพร ดูจากลักษณะแล้วหมึกชนิดนี้มีพิษร้ายแรง ยิ่งตอนป้องกันตัว สีของวงจะเห็นชัดมาก​ โดยหมึกทะเลชนิดนี้เป็นจำพวกหมึกสายขนาดเล็ก มีพิษ ต้องระวังไว้ให้มาก มีพิษร้ายแรงกว่างูเห่า 20 เท่า ผู้ถูกกัดอาจจะตายภายใน 2-3 นาที​ 

อธิบดี​ ทช.​ กล่าวว่า​ หมึกสายวงน้ำเงินมีสารพิษที่มีความร้ายแรงมากผสมอยู่ในน้ำลาย​ ผู้ที่ถูกกัดอาจตายได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง​ จึงนับเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก สารพิษของหมึกสายวงน้ำเงินนั้น เรียกว่าเตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งเป็นพิษชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า

ทั้งนี้​ เตโตรโดท็อกซินที่พบทั้งในหมึกสายวงน้ำเงินและปลาปักเป้าไม่ได้ถูกสร้างจากภายในตัวของพวกมันเอง เพราะสัตว์เหล่านี้ไม่มียีนที่ควบคุมการสร้างพิษนี้​ มีการศึกษาพบว่าพิษนี้สร้างจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น แบคทีเรียในวงศ์ Vibrionaceae, Pseudomanas sp.,Photobacterium phosphorium ฯลฯ ที่อาศัยอยู่ในตัวสัตว์แบบพึ่งพา​ โดยที่แบคทีเรียอาศัยตัวสัตว์เป็นที่อยู่และแหล่งอาหาร ส่วนสัตว์ได้พิษจากแบคทีเรียไว้เป็นอาวุธป้องกันตัวและล่าเหยื่อ

นายโสภณ​ กล่าวอีกว่า​ สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นต้องหาวิธีนําอากาศเข้าสู่ปอด เช่น เป่าปาก ฯลฯ จากนั้นต้องรีบนําส่งแพทย์โดยด่วน เพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ​ ถ้าช่วยชีวิตเป็นผลผู้ป่วยจะฟื้นเป็นปกติภายใน 24 ชั่วโมง เว้นแต่ว่าจะขาดอากาศนานเกินไปจนทําให้สมองตาย

พิษร้ายกว่างูเห่า 20 เท่าตายภายใน 2-3 นาที 

สําหรับผู้ที่ได้รับพิษจากหมึกสายวงน้ำเงินควรทําการปฐมพยาบาลในทันทีหลังถูกกัด โดยใช้เทคนิคการกดรัดและตรึงอวัยวะส่วนนั้นไม่ให้เคลื่อนไหว เพื่อทําให้พิษไม่แพร่กระจายเข้าระบบไหลเวียนโลหิต​ โดยใช้ผ้าพันจากอวัยวะส่วนปลายไล่มาจนถึงบริเวณเหนือแผลที่ถูกกัด ถ้าเป็นบริเวณแขนหรือขาให้ใช้วัสดุไม้ดามไว้ด้วย​ ถ้าถูกกัดบริเวณลําตัวในกรณีที่พันได้ให้พันด้วยแต่อย่าให้แน่นจนทําให้หายใจลําบาก​ และไม่ควรกรีดปากแผลที่ถูกกัดเพราะจะทําให้พิษกระจายมากขึ้น​ โดยเทคนิคนี้เป็นการซื้อเวลาเพื่อให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น​ ก่อนนําผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล

ขอเตือนประชาชน นักท่องเที่ยว​ หากพบเห็นหมึกชนิดนี้ตามสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล​ ห้ามจับเล่นหรือนำมาประกอบอาหารโดยเด็ดขาด เพราะพิษของหมึกชนิดนี้ไม่สลายแม้เมื่อโดนความร้อน​

ส่วนพฤติกรรมไม่มีนิสัยดุร้าย แต่หากพบว่ามีภัย วงน้ำเงินบนตัวจะเข้ม แล้วพุ่งเข้าหานั้นคือพฤติกรรมเพื่อป้องกันตัว ทางที่ดีหากเจอควรจะหลีกเลี่ยงหรืออย่าไปทำอะไร​ แม้เพียงสัมผัสก็ไม่ควรทำ ปล่อยให้ไปตามธรรมชาติแล้วจะปลอดภัย
 

สำหรับหมึกชนิดนี้มีรายงานว่าเคยพบในทะเลไทยบ้างแล้ว โดยเฉพาะแถว จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร อาศัยอยู่ตามพื้นทราย พื้นทะเล​ ออกหากินเวลากลางคืน จับพวกกุ้งพวกปลากินเป็นอาหาร​ แต่พบได้ไม่บ่อยนัก หากเจอหมึกชนิดนี้ ไม่ต้องไปทำร้าย แค่หลีกเลี่ยงทางใครทางมันก็พอ

ที่ผ่านมายังไม่พบรายงานว่ามีคนไทยถูกหมึกชนิดนี้กัด แต่ก็ควรระมัดระวังไว้ ทั้งนี้​ หากประชาชน​ ชาวประมง​ และนักท่องเที่ยว​ พบเห็นหมึกสายวงน้ำเงินที่บริเวณทะเลในประเทศไทย​ สามารถแจ้งมายังกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง​ เบอร์โทรศัพท์​ 02-141-1300 หรือสายด่วน​กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ Green​Call​ โทร.1310 เพื่อที่ทางกรม​ฯ​ จะได้เก็บข้อมูลการพบเจอหมึกชนิดนี้​ ไปศึกษาและวิจัยทางวิชาการต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง